ใจเราร่มเย็นเป็นพอ
http://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/14413.jpg@n
ชีวิตที่เต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่เราปฏิเสธไม่ได้และไม่สามารถทำตามใจตนเองได้นั้น แน่นอนย่อมนำมาซึ่งความอึดอัดใจบ้างในบางครั้ง หรืออาจจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างใจกับใจเข้าได้ ด้วยเพราะเขากับเราต่างจิตต่างใจกันนั่นเอง
แต่ใช่ว่าทุกปัญหาไม่มีทางออก ยิ่งถ้าเรามองถูกเห็นถูกและไม่ยอมที่จะผูกมัดตนเองไว้กับผู้อื่น โดยเพียงแค่หวังให้เขายอมรับและชื่นชมเรา เยินยอยกย่องเรา ก็จะง่ายต่อการปลีกใจและแยกตัวออกมาจากปัญหาได้ง่ายขึ้น
แต่คนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะเดินออก จากลาภ ยศ สรรเสริญ และความสุขที่ผู้อื่นหยิบยื่นให้ และยอมตกอยู่ในสภาพอึดอัดฝืนใจ ทั้งๆที่รู้ว่าตนเองลำบากใจ ทั้งยังต้องอดทนทุกอย่างเพื่อถนอมน้ำใจกันและกันไว้ ทั้งๆที่จริงแล้ว โลกียสุขเหล่านั้นเป็นเสมือนน้ำตาลที่เคลือบความขมไว้เท่านั้นเอง เมื่อละลายลงเมื่อใดความขมก็จะปรากฏรสชาติที่ไม่มีใครชอบเลย
http://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/14413-1.gif@n
“ หวานเป็นลม ขมเป็นยา “ คำเตือนของคนโบราณนั้นย่อมชี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ความหวานใดๆก็เพียงแค่ผ่านมาชั่วคราวแล้วก็ผ่านไปเท่านั้น แต่ถ้าเป็นความขมนั้นเป็นเสมือนตัวยาที่สามารถบำบัดโรคได้เช่น ร้อนในกระหายน้ำ แผลในปากและอีกหลายๆโรค ซึ่งล้วนแต่เป็นโรคภายในทั้งสิ้น ต้องอาศัยการดื่มทานเข้าไปเพื่อรักษานั่นเอง ปุถุชนทั้งหลายก็เช่นกัน ย่อมได้รับทั้งคำชม และคำติ ทั้งคำชมและคำติก็เป็นเพียงแค่ลมปากที่อาจออกมาจากคนที่รักเราก็ได้ชังเราก็ได้ แต่เมื่อใดเราเอาคำติมาเป็นเรื่องและเก็บกักในใจเราแล้ว ความร้อนในร้อนใจ ก็เพิ่มอุณหภูมิขึ้นได้
หยุดคิดและมองสายลมแห่งวาจานั้นด้วยสติปัญญา มองให้รอบคอบ อย่างผู้รอบรู้ในกรรมและวิบากกันเถิด ถ้าเราทำดีแล้วความดีนั้นเองจะให้ผลดีกับเราแน่นอน ซึ่งเสมือนกรรมดีได้สรรเสริญเราอย่างแน่ๆ เช่นกันถ้าเราใช้ชีวิตไปด้วยความประมาทขาดกุศลจิต ไร้สติขาดปัญญาในการกระทำงานชีวิตแล้ว วิบากอกุศลที่จะมีนั้นก็ไม่ต่างจากคำติที่ให้ผลเราเพียงลำพังคนเดียวจริงๆ
ชีวิตเราท่านต่างเดินทางมานานแล้ว สุขทุกข์เผชิญกันมามากมายแล้ว จะรอสุขจากใครไปทำไม รอทำไมกับการสรรเสริญจากผู้อื่น สู้มาตั้งใจสร้างสุขหนีทุกข์ให้กับตนเองด้วยการเดินทางชีวิตในเส้นทางบุญอย่างมีปัญญาจะดีกว่ามากมาย เพราะใจเราร่มเย็นด้วยการทำดีเท่านั้นเป็นพอแล้ว
ด้วยความปรารถนาดีค่ะ
บุษกร เมธางกูร.
http://webboard.abhidhammaonline.org/old/i525.photobucket.com/albums/cc340/yamiejung9/mie006/ko48.gif
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย อัญชลี เมื่อ 2017-6-1 05:33
กราบขอบพระคุณอ.บุษกร มากค่ะ
เราคงต้องฝึกตนเอง หมั่นสร้างสติและมองสิ่งที่มากระทบด้วยหลักกรรมและวิบากยิ่งขึ้นค่ะ
หน้า:
[1]