มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ - เว็บบอร์ด

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
ดู: 1532|ตอบกลับ: 0

ปลาทูแมว

[คัดลอกลิงก์]

238

กระทู้

469

โพสต์

4138

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
4138
ปลาทูแมว
โดย ดร. ประพันธ์ เศวตนันท์



คนไทยเรียกปลาทูตัวเล็กๆ ซึ่งเข้าใจว่าผู้ซื้อจะนำไปเลี้ยงแมวว่า "ปลาทูแมว" ผมก็เข้าใจอย่างนั้นมานาน เวลาไปตลาดจะถามคนขายว่า "มีปลาทูแมวมั้ย !" ส่วนมากปลาทูแมวจะมีราคาถูกกว่าปลาทูคน (มีปลาทูแมว ก็จะมีคำตรงกันข้ามว่า "ปลาทูคน" แปลว่าอะไรเห็นจะไม่ต้องอธิบาย) ผมต้องไปซื้อปลาทูแมวทุกสัปดาห์ ไม่เสาร์ก็อาทิตย์ เพราะนอกจากจะมีแมวเก่าแก่ที่เลี้ยงในบ้านเหมือนลูกสาว 2 ตัวแล้ว ยังมีแขกผู้มาเยือนมาขอกิน จนกลายเป็นขาประจำ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะแขกร้องเรียกดังมาก หนวกหูจำเป็นต้องออกไปให้บริการจนแมวแขกกลายเป็นแมวเลี้ยงไปในที่สุด

ในตอนหลังๆ ปลาทูมีราคาแพงขึ้นไปเรื่อยๆ ปลาทูคนกลายเป็นอาหารคนมีฐานะไปโดยปริยาย คนจนอย่าหวังว่าจะได้กินปลาทูคนตัวโตๆ เพราะราคาแพงเหลือเกิน คนจนต้องเลื่อนฐานะไปซื้อปลาทูแมว ทำให้แม้ปลาทูแมวก็มีราคาแพงไปด้วย ผมก็เลี่ยงไปซื้อปลา mackerel ไปเลี้ยงแมวแทน เพราะมีราคาถูกกว่ามีเนื้อมีหนังมากกว่า ปลา mackerel นี่เขาเอาไปทำปลากระป๋องไงครับ คนไทยเลยเรียกว่า "ปลากระป๋อง" ส่วนใหญ่ปลากระป๋องไม่อยู่ในสภาพที่ดีนัก ภาษาแม่ค้าเรียกว่า ไม่สวยนะ คือ ไม่น่ากิน ขายปะปนไปกับปลาทูแมว คงถือเป็นเกรดเดียวกัน เหตุที่ปลากระป๋องไม่สวยคงเป็นเพราะเหลือมาจากบรรจุกระป๋องในโรงงาน ซึ่งเขาคงเลือกที่ดีๆ ไปแล้ว ที่เหลือก็ขายราคาถูกๆ ให้แม่ค้าไปขายเป็นปลากระป๋องนั่นแหละ

เช้าวันนี้ ผมเดินไปตลาดเช่นเคย ผมไม่ชอบเอารถไปเพราะหาที่จอดยาก การเดินไปตลาดจากบ้านมีสองเส้นทางหลัก เดินไปตามถนนใหญ่จากแยกถนนสุโขทัย ไปตามถนนพระราม 5 เลี้ยวขวาเข้าถนนนครชัยศรี ก็จะมีสินค้าขายตามถนนซ้ายขวาไปจนถึงตลาดราชวัตร ซึ่งเป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ทีเดียว เส้นทางตามถนนใหญ่นี้อากาศดี ไม่มีกลิ่นเหม็น แต่มีระยะทางไกลคิดว่า ประมาณ 2 กม. ทีเดียว ชาวบ้านในละแวกสุโขทัย สุคันธาราม รวมทั้งราชวิถี จึงไม่นิยมใช้เส้นทางนี้ ชาวบ้านจะใช้เส้นทางลัด ตัดซอยต่างๆ ซึ่งมีหลายซอย ผ่านวัดหรือทะลุเข้าไปในวัดก็ไม่ว่ากัน เพราะแล้วแต่ว่าเดินมาจากด้านไหน ทางลัดนี้ต้องผ่านสลัมคนจน มีการเล่นการพนัน โดยเฉพาะที่เห็นคือ พนันมวยตู้เป็นประจำ พวกโฮโลคงมีอยู่ตามซอกมุมต่างๆ ทางลัดเส้นนี้ไม่แนะนำให้สาวๆ เดินผ่านในยามวิกาล เพราะอาจไปแล้วไปลับได้ แต่สำหรับคนแก่อย่างผม อยู่ละแวกนี้มาตั้งแต่เกิด ไม่มีใครกล้ามารังควาญแน่ ปัดโธ่เจ้าพ่อเก่า ใครจะกล้า?

ที่ร้านเจ้าหมวยขาประจำ ซึ่งไปได้สามีเป็นคนไทยอีสาน มีลูกเต้าตัวเล็กๆ หลายคน (ไม่ทราบว่ากี่คนแต่เห็นหลายคน) ผมถามว่ามีปลากระป๋องสวยๆ ไหม เอาสัก 4-5 เข่ง เจ้าหมวยก็บอกว่า มี (ปกติไม่เคยบอกว่าไม่มี ถึงไม่มีหน้าร้านก็บอกว่ามีในบ้าน ให้รอหน่อย ผมเลยต้องเฝ้าหน้าร้านให้นานพอควร หลายครั้งผมต้องกลายเป็นคนขายปลาทูไปโดยปริยาย คือ บอกราคาให้เขา และให้ลูกค้ารอ ซึ่งในระหว่างนั้นผมก็ชวนคุย รอจนเจ้าหมวยเอาปลากระป๋องในบ้านมาให้ผม) เช้าวันนี้ผมเห็นมีปลาทูแมววางขายรวมไปกับปลากระป๋องเช่นเคย ขณะเจ้าหมวยกำลังจะห่อปลากระป๋องให้ผม ก็มีหญิงวัยรุ่น จูงลูกชายหน้าตามอมแมมมาด้วย หน้าตาซูบผอมเนื้อตัวดำ ลูกชายหล่อนก็มีสภาพไม่แตกต่างกับแม่เท่าไรนัก ไม่ร่าเริงสดชื่นเหมือนเด็กทั่วไป

คุณแม่ซึ่งดูแก่กว่าอายุจริงมาก ชี้ไปที่ปลาทูแมว พร้อมกับถามแม่ค้าหมวยว่า ปลาทูแมวราคาเข่งละเท่าไร เจ้าหมวยตอบว่า เข่งละ 15 บาท (เป็นปลาทูตัวเล็กๆ สี่ตัวต่อหนึ่งเข่ง) พร้อมทั้งบอกให้รอก่อน แกจะห่อปลากระป๋องให้ผมก่อน เพราะเห็นว่ามาก่อน ผมไม่ได้รีบร้อนไปไหน จึงบอกให้หมวยห่อปลาให้แม่และเด็กไปก่อน เพราะผมรอได้ หมวยถามแม่เด็กว่าต้องการปลากี่เข่ง เธอตอบว่าต้องการ 5 เข่ง ในระหว่างที่หมวยห่อปลาทูแมวให้อยู่นั้น ผมก็ถามเธอว่าจะซื้อปลาไปทำอะไร เธอตอบเบาๆ พอจับความได้ว่า เธอจะเอาไปทำปลาร้ากิน เจ้าหมวยก็อธิบายเพิ่มเติมว่า เขาเอาไปทำน้ำให้ข้นไง ผมก็เพิ่งรู้นะว่า ปลาทูแมวนะไม่ใช่ให้แมวกินอย่างเดียวนะ คนจนก็กินด้วย และถ้าพูดถึงปลาร้าก็เป็นอาหารโปรดของผมซะด้วย

หมวยห่อปลาทูแมวให้ 5 เข่ง ใส่ถุงให้เสร็จสรรพก็ยื่นให้แม่เด็กพร้อมรอรับเงิน แม่เด็กกำเงินไว้ในอุ้งมือแน่น แบมือออกมาเป็นแบงก์ 20 และเหรียญ 5 หนึ่งอัน รวมเป็นเงิน 25 บาท เจ้าหมวยก็บอกกับหล่อนว่า "ไม่ใช่นะ รวมกันต้องเป็น 75 บาทเพราะปลาทูเข่งละ 15 บาท 5 เข่งก็ต้องเป็น 75 บาทไง" หญิงสาวท่าทางอึกอัก บอกว่านึกว่าปลาทูเข่งละ 5 บาท ผมจึงบอกกับหมวยว่า "ให้ไปเถอะหมวย ผมจะรับผิดชอบเอง" ผมพูดแม่เด็กว่า "ลุงให้กับหลานนะ หน้าตาหล่อดีซะด้วยซิ" แม่เด็กไม่พูดอะไร หรืออาจพูดไม่ออก เธอพยายามจะยื่นเงิน 25 บาทให้คนขาย แต่ผมบอกว่าไม่ต้องหรอก ลุงให้หลานกินขนมก็แล้วกัน อารามดีใจจนเห็นได้ชัด เธอเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ลืมแม้แต่จะกล่าวคำขอบคุณตามธรรมเนียมด้วยซ้ำไป

ปลาทูแมวซึ่งแม้ไม่มีค่ามากนักสำหรับหลายคน มันอาจมีค่าอย่างมากกับชีวิตเล็กๆ อีกจำนวนไม่น้อย ซึ่งมีรายได้จุนเจือครอบครัวน้อยมาก ปลาร้าจำนวนเล็กน้อยคลุกกับข้าวใส่น้ำปลาไปสักหน่อย กลายเป็นอาหารวิเศษที่สุดสำหรับคนจนในยามเศรษฐกิจตกสะเก็ดเช่นนี้ แม่ตัวเล็กๆ เหล่านี้ซึ่งล้วนต้องต่อสู้ชีวิตเพื่อความอยู่รอดของลูกน้อยไปวันๆ ด้วยความลำบากแสนเข็ญ จะมีโอกาสได้รับเกียรติเป็น "คุณแม่แห่งชาติ" สักครั้งไหมนะ หรือเฉพาะคุณหญิงคุณนายเท่านั้นที่เป็นได้




ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ประวัติการแบน|อุปกรณ์พกพา|ข้อความล้วน|อภิธรรมออนไลน์

GMT+7, 2024-4-25 14:31 , Processed in 0.058787 second(s), 19 queries .

Powered by Discuz! X3.4, Rev.75

Copyright © 2001-2021 Tencent Cloud.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้