มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ

Moonlanithi Vipassana
Meditation
OnlineStudy
thai    english
Article สำนักวิปัสสนา
อ้อมน้อย
กิจกรรม About Us

[ Home ] [ ลานถาม-ตอบปัญหาธรรมะ ] [ ลานกวีธรรม ] [ ลานคิด เล่า เขียน ] [ ลานกลิ่นดอกแก้ว ] [ ค้นหากระทู้ ] [ สมัครสมาชิก ] [ login เข้าระบบ ]


ปัญหามาจากไหน?(๑)









ปัญหามาจากไหน?(๑)
ธรรมะบรรยายโดย หลวงพ่อเสือ



เมื่อขึ้นชื่อว่าชีวิตนั้นไม่มีใครซักคนเดียวที่ไม่มีปัญหา ตั้งแต่เกิดมาเรามีปัญหาร้อยแปดพันเก้า เพราะว่าอะไร เราแก้ไขปัญหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเลย ต้องกิน ต้องนอน ต้องเดิน ต้องยืน ต้องขับถ่าย ต้องเรียนหนังสือ ต้องทำงาน โดยเฉพาะวันหนึ่งต้องกินข้าวกินปลาเข้าไป เมื่อถึงเวลากลางวันก็หิวอีกแล้ว เย็นก็หิวอีกแล้ว

นอกจากนี้การนอนที่ทำมาตั้งแต่เล็กจนโตทุกวัน เราก็ต้องแปรงฟันอาบน้ำชำระความสกปรก ทำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่เรายังมีอายุอยู่ มีชีวิตอยู่ การแก้ไขปัญหาโดยสามัญไม่มีวันหมดลงไปได้ เพราะชีวิตคือปัญหา ฉะนั้นเมื่ออยากหมดปัญหา จะต้องเดินตามทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ถึงซึ่งพระนิพพาน เพราะพระนิพพานเป็นธรรมที่ดับทุกข์คือดับปัญหานั่นเอง

และในความเป็นจริงไม่มีใครสักคนเดียวเกิดมาแล้วปฏิเสธไม่พ่วงเอาปัญหาหรือความทุกข์ติดตามมมาได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ดีหรือไพร่ ยาจก เศรษฐี มหาเศรษฐี เพราะฉะนั้นความทุกข์มีอยู่

ความทุกข์คืออะไร ก็คือการทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ เช่น นั่งนานๆ ก็เมื่อย ต้องมีการเปลี่ยนอิริยาบถ เดินนานๆ ก็เมื่อย ต้องนั่งพัก การเดิน ยืน นั่ง นอน เหยียด คู้ ก้ม เงยของชีวิต ทำให้เราต้องบริหารมาก บริหารร่างกายเพราะต้องแก้ไขทุกข์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

นอกจากนั้นต้องดูแลมาก ชีวิตมีความบกพร่องอยู่เป็นนิจ เรากินข้าวอิ่มขนาดใดก็แล้วแต่ ก็ไม่อิ่มคงทนถาวร เพราะความอิ่มนั้นประกอบด้วยความไม่เที่ยง ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ บังคับบัญชาไม่ได้ เป็นไปด้วยอำนาจของไตรลักษณ์ นี่คือปัญหาชีวิต ต้อง บริหารมาก ต้องดูแลมาก เป็นความทุกข์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนั้นเมื่อเกิดมาแล้ว ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้คือต้องแก่ แก่แล้วต้องตาย นี่คือทุกข์ประจำ ๓

โดย ศาลาธรรม [26 ม.ค. 2557 , 11:00:33 น.] ( IP = 61.90.105.186 : : ) เก็บกระทู้นี้ไว้ใน Bookmarkส่งกระทู้นี้ให้เพื่อนของคุณ


  สลักธรรม 1



และมีทุกข์จรอีก ๘ อย่าง ได้แก่

๑.โสกะ คือความโศก

๒.ปริเทวะ คือความร่ำไรรำพัน

๓.ทุกขะ คือความทุกข์กาย

๔.โทมนัส คือความทุกข์ใจ

๕.อุปายาส คือความคับแค้นใจ

๖.อัปปิเยหิ สัมปโยโค คือการประสบกับสิ่งที่ไม่รักที่พอใจ

๗.ปิเยหิ วิปปโยโค คือการพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักที่พอใจ

๘.ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ คือมีความปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น

โดย ศาลาธรรม [26 ม.ค. 2557 , 11:01:32 น.] ( IP = 61.90.105.186 : : )


  สลักธรรม 2



รวมความทุกข์ทั้งหมด ๑๑ อย่าง ทุกข์ประจำนั้นมาเพราะความเกิด ส่วนทุกข์จรมาเพราะกิเลส ตัณหา เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรู้ว่า เราจะทำอย่างไรจึงจะหมดไปจากความทุกข์ เราก็ต้องรู้สมมติฐานว่า ทุกข์มาจากไหน แล้วก็ไปตัดต้นตอทุกข์นั้น จึงจะหมดจากความทุกข์ได้

ปัญหามาจากไหน เมื่อไม่มีชีวิตนั้นก็ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาบางเรื่องก็ต้องแก้ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็น ปัญหาจริงหรือปัญหาปลอม

ปัญหาจริงคือวิบากขันธ์ ต้องแก้ไข ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เช่น เจ็บป่วยเป็นปัญหาแล้ว หรือสายตาสั้นก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการตัดแว่น เรารู้ผลแล้วว่ามาจากเหตุใด ก็คือการโกหก ก็ให้หยุดเหตุนั้นเสีย อย่าไปโกหก หากมีร่างกายทุพพลภาพซึ่งเป็นผลมาจากการเบียดเบียนสัตว์ การฆ่าสัตว์ เราแก้ไขไม่ได้แล้วเพราะเป็นวิบากขันธ์ แต่เมื่อเราเรียนแล้ว เรารู้แล้วว่ามาจากเหตุอะไร เราไม่อยากได้อีก ก็อย่าทำอีก ชีวิตนั้นจึงอยู่กับการศึกษา คือศึกษาเหตุ ศึกษาผล

สัปปุริสธรรม ๗ ประการ เป็นคู่มือใช้กับชีวิตคือ รู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักตน รู้จักกาล รู้จักประมาณ รู้จักชุมชน รู้จักเลือกคบคน

รู้จักเหตุ คือรู้จักว่าสร้างเหตุอย่างนี้ให้ผลอย่างไร ดีหรือชั่ว ถ้าชั่วเราไม่อยากได้ เราก็อย่าไปทำส่วนเหตุที่ดีก็ทำแล้วให้ผลอย่างไร เช่นการให้ทานมีผลถึง ๑๑ ประการ เราก็หมั่นทำทานเป็นต้น ฉะนั้นเราอยากได้ เราก็ต้องสร้างเหตุ

โดย ศาลาธรรม [26 ม.ค. 2557 , 11:01:56 น.] ( IP = 61.90.105.186 : : )


  สลักธรรม 3


รู้จักผล คือรู้ว่าสิ่งที่ปรากฏกับเราทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจนั้น เราได้รับตั้งแต่เช้าลืมตาจนหลับตามีอยู่ ๒ อารมณ์คือ อนิฏฐารมณ์กับอิฏฐารมณ์ ก็คือความสุขและความทุกข์ คือความพอใจกับไม่พอใจ เกิดขึ้นผ่านทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจอยู่ตลอดเวลาซึ่งเป็นผล และผลนั้นมาจากไหน ก็ต้องมาจากเหตุ

ถ้าได้รับผลร้ายก็ต้องมาจากเหตุร้าย ถ้าได้รับผลดีก็ต้องมาจากเหตุดี

แล้วใครเป็นผู้ทำเหตุนั้นไว้ ก็คือตัวเราเอง เราจึงต้องเผชิญกับผลนั้นด้วยการยอมรับ แล้วมีสติว่า ที่กระทบคือวิบาก

เมื่อมีสติรู้ว่าเป็นวิบากของเราเอง ก็จะทำให้ไม่เร่าร้อน แล้วก็ใช้ชีวิตไม่รุ่มร่าม โทษโน่นโทษนี่ คือยอมรับแล้วแก้ไข ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด สุดความสามารถ เราไปแก้ไขวิบากไม่ได้ เช่น เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ต้องหาหมอบำบัดเสีย การยอมรับความจริงทำให้ใจสบาย หรือหากเราเกิดมาอดอยากยากจน ขัดสนทรัพย์ ก็ต้องทราบว่ามาจากเหตุคือ ขาดการบริจาคทาน และเคยอทินนาทานร่วมด้วย จึงส่งผลให้เราไม่รุ่งเรืองเฟื่องฟู เมื่อรู้ว่าเราทำมาเอง และเราอยากเป็นเศรษฐีก็ใช้หัวใจเศรษฐีที่พระพุทธเจ้าสอน

รู้จักตน เมื่อก่อนนั้นเราไม่เคยรู้จักตนเลย แต่พอเศรษฐีตกต่ำ เริ่มรู้จักตนแล้ว ต้องระวัง ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด ต้องมีเก็บไว้ อย่าตื่นเต้นตูมตาม เราต้องรู้ว่าเรามีฐานะอย่างไร ควรทำอย่างไร ที่สำคัญในหลักพระพุทธศาสนาคือรู้จักตนเองด้วยปัญญา

โดย ศาลาธรรม [26 ม.ค. 2557 , 11:02:15 น.] ( IP = 61.90.105.186 : : )


  สลักธรรม 4



รู้จักกาล รู้ว่ากาลเทศะนี้ควรทำอย่างไร เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน การดำเนินชีวิตต้องกาลเทศะ เช่น ในวันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก และเป็นวันโชคดีสำหรับพุทธศาสนิกชน และมีโอกาสได้รับชัยชนะ เพราะวันนี้เป็นวันประสูติ วันตรัสรู้ และวันเสด็จดับขันธปรินิพพานของพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหามีผู้ใดเสมอเหมือนไม่ วันนั้นคนไทยชาวพุทธก็ต้องเข้าวัดสวดมนต์ทำบุญสุนทาน แล้วก็เวียนเทียน แล้วต้องรู้จักคือ เศรษฐกิจตอนนี้ต้องเลิกดื่มน้ำเมา หรือน้ำอัดลมต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ต้องใช้ทฤษฏีที่สำคัญคือ เศรษฐกิจพอเพียง

รู้จักประมาณ โดยรู้จักชีวิตอย่าให้ประมาท ประมาทในวัย ในเพศ ในการกิน ประมาทสารพัดว่าเราเป็นผู้ชายไม่เป็นไร เราเป็นพระไม่เป็นไร เราเป็นผู้หญิงอย่างไรก็มีคนมาช่วย ต้องมีหลักธรรม ประจำจิตว่า อตฺตาหิ อตฺตาโน นาโถ ตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ต้องรู้จักประมาณในการใช้จ่าย การนอนเป็นต้น

รู้จักชุมชน เนื่องจากสังคมก็มีหลายสังคม เราควรจะคบกับสมาคมไหน ที่ควรไปที่สุดคือ พุทธสมาคม ไม่ใช่ที่ถนนพระอาทิตย์อย่างเดียวนะ แต่เป็นสมาคมที่ประกอบด้วยปัญญา เพราะพวกที่มีปัญญานั้นจะรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรควรละ

รู้จักเลือกคบคน เพราะคบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล ซึ่งก็ตรงตัวอยู่แล้ว

นี่คือสิ่งที่ต้องใช้กับชีวิตประจำวัน ถ้าไม่มีจะแย่ที่สุดเลย เพราะชีวิตเราพร้อมจะหายนะ และนอกจากเราจะมีปัญหา แล้วก็ยังมีโรคภัยไข้เจ็บอีกมากมาย



ขออนุโมทนากับน้องนวลผู้พิมพ์

โดย ศาลาธรรม [26 ม.ค. 2557 , 11:02:33 น.] ( IP = 61.90.105.186 : : )

ขอเชิญแสดงความคิดเห็น
จาก : *
Code :
กรุณากรอก Code ตัวเลขด้านบน *
อีเมล์ : หากไม่ต้องการให้เว้นว่าง
รูปภาพ : ไม่เกิน 150KB
รายละเอียด :
Icon Toy
Special command

* *
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว.... 

คำเตือน
  • การแอบอ้างใช้ชื่อบุคคลซึ่งอาจทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
  • การโพสรูปภาพที่ไม่เหมาะสม หรือ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
  • หากพบเห็นรูปภาพหรือกระทู้ที่ไม่เหมาะสมสามารถเมล์เข้ามาได้ที่ freewebboard@thaimisc.com โดยระบุ subject "กระทู้ไม่เหมาะสม" พร้อมทั้งระบุ ADDRESS ของเว็บบอร์ด

ผู้ช่วยเหลือ-แหล่งข้อมูล

[ คีตธรรม ] [ ตารางสี ] [ ค้นหาเพลง ]

ลานภาพ

อบรมวิปัสสนา

ค้นหา

ค้นหา-GooGle

สร้างสรรค์โดย a2.gif (164 bytes) http://www.abhidhamonline.org