Moonlanithi |
Vipassana Meditation |
OnlineStudy thai english |
Article |
สำนักวิปัสสนา อ้อมน้อย |
กิจกรรม | About Us |
ความมุ่งหมายของการเจริญวิปัสสนา
สลักธรรม 1
การเจริญบุพเพภาคมรรค คือ ศีล สมาธิและปัญญา จะต้องทำกิจไปพร้อมในเวลาปฏิบัติ
การปฏิบัติวิปัสสนา ล้วน ๆ นั้นในหลักปฏิบัติจริง ๆ ก็มีอยู่เพียง ๓ ข้อเท่านั้น
อิริยาบถ คือ การเดิน ยืน นั่ง และนอน ๑
สัมปชัญญะ ๗ หมวด มีก้าวไปข้างหน้า และถอยหลังกลับมาข้างหลัง เป็นต้น
ธาตุมนสิการ คือ การใส่ใจถึงธาตุ ๔ มีธาตุดิน เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ ในการกำหนดนั้น จึงจำเป็นต้องมีรูปมีนามมาเป็นอารมณ์กำหนดเสมอ เพราะนอกจากรูปนามแล้วก็ไม่มีอะไรเลย
การเจริญวิปัสสนาเป็นการเจริญหรือพัฒนาความรู้ให้เป็นสากล เป็นกิจที่ทำได้เพราทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดที่นอกไปจากรูปกับนาม เราเข้าใจผิดในรูปและนาม จึงเข้าใจว่า มีหญิง มีชาย มีท่าน มีเธอ แล้วก็ยึดติดในหญิงในชายเป็นต้นทุกวันเวลา
ชีวิตของเราทั้งหลาย ได้แต่ดิ้นรนขวนขวาย อยากได้รูป ได้เสียง ได้กลิ่น เป็นต้น มาสังเวยตัณหา คือ ความต้องการของตนเองอยู่ แทบทุกลมหายใจ หามาให้เท่าไร ก็ไม่รู้จักเพียงพอ และเมื่อหามาได้แล้วก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น ยังจะยึดมั่นถือมั่นหวงแห่งไม่ยอมให้ผู้อื่น ด้วยอำนาจของอุปทานอีก
นับว่าเป็นความทุกข์ทั้งขึ้นทั้งล่องไม่มีเวลาที่จะว่างเว้นเลย มีสิ่งที่อยากได้ เมื่ออยากได้ก็ถูกความต้องการบังคับให้ต้องดิ้นรนเสาะหามาสนองความต้องการให้ได้ ถึงจะยากเย็นขนาดไหน ก็จะต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อได้มาให้จงได้ บางทีก็ต้องเอาชีวิตเข้าเสี่ยงก็ได้ นี้นับเป็นความทุกข์อันเนื่องมากจากการแสวงหา
แต่เพราะเรามืดบอด มองไม่เห็นว่าเป็นทุกข์
จึงต้องแสวงหากันเรื่อยไป และเมื่อได้มาแล้ว ก็ต้องลำบากในการพิทักษ์รักษาอีก เป็นความห่วงใยกังวล ไปไหนก็ไม่รอด เพราะห่วงใยอาลัยถึง ทำให้จิตใจถูกผูกพันอยู่ ไม่ต่างอะไรกับติดคุกติดตะราง ไม่มีความเป็นอิสระในตัวเองเลยโดย บุษกร เมธางกูร [20 ส.ค. 2558 , 09:58:23 น.] ( IP = 171.97.19.143 : : )
สลักธรรม 2ความเคยชินต่อความเห็นผิดที่มีประจำมาจนนับชาติไม่ถ้วน จึงไม่รู้สึกว่า นามรูปเป็นโทษเป็นภัย ท่านอุปมาเหมือนกับหนอนอยู่ในพริก ไม่รู้สึกร้อนฉะนั้น
เราต่างจะเอาจริงเอาจังกับนามรูป ซึ่งไม่มีความจีรังยั่งยืน อยู่ทุกเสี้ยววินาที
นามรูปเกิดจากปัจจัย คืออวิชชา และตัณหา อวิชชาเป็นอดีตเหตุ ตัณหาเป็นปัจจุบันเหตุ ที่จะเป็นปัจจัยให้เกิดอนาคตผลต่อไป
กาล ๓ คือ อดีตอัทธา คือตัวอวิชชาและสังขาร เป็นปัจจัยให้เกิดทุกข์คือ วิญญาณ-นามรูป-สฬายตนะ ผัสสะและเวทนา อันเป็นตัวปัจจุบันผล ๕ เมื่อมีเวทนาแล้ว ก็เป็นปัจจัยให้เกิดปัจจุบันเหตุ คือตัณหาอุปาทานและกรรมภพอีก และก็ทำให้เกิดผลคือชาติ และชรามรณะในอนาคตต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุดสัตว์ทั้งหลายตกอยู่ในวังวนคือวัฏฏะ
ด้วยเพราะ ตาบอด (คือไม่มีปัญญาคือแสงสว่าง) จึงมองไม่เห็นว่า โลกเป็นความทุกข์ ทุกคนจึงต่างมุ่งแต่จะแสวงหา ภาลยศ สรรเสริญและความสุข มาสู่ตนและครอบครัว โดยไม่มีทางที่จะรู้ตนเองได้เลยว่าตนนั้นกำลังตกอยู่ภายใต้ความทุกข์อย่างใหญ่หลวงโดย บุษกร เมธางกูร [20 ส.ค. 2558 , 09:59:42 น.] ( IP = 171.97.19.143 : : )
สลักธรรม 3
ด้วยเหตุนี้ ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่จะหันมารีบสร้างทางแห่งความสุขให้แก่ตนเองสักที ด้วยการศึกษาหาความรู้ในหลักคำสอน ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงประทานไว้
และรีบออกเดินทางจากความทุกข์ ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อละคลายความเห็นผิด ว่าชีวิตนั้นเป็นเราเป็นของๆเรากันเถิด
และจงมีศรัทธา ที่จะปฏิบัติโดยไม่ท้อถอย เพราะเส้นทางนี้เท่านั้น (คือการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน) ที่จะทำให้ท่านผู้มีศรัทธา พาตนเองพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ค่ะ
ด้วยความปรารถนาดี บุษกร เมธางกูร
โดย บุษกร เมธางกูร [20 ส.ค. 2558 , 10:00:54 น.] ( IP = 171.97.19.143 : : )
สลักธรรม 4ขอบคุณมากครับ กับเรื่องที่มีค่าแห่งชีวิต ที่ควรจะต้องรู้และประจักษ์ทุกข์ให้ได้ ด้วยการเจริญวิปัสสนาครับ
โดย เทพธรรม [20 ส.ค. 2558 , 10:02:17 น.] ( IP = 171.97.19.143 : : )
ขอเชิญแสดงความคิดเห็น คำเตือน
- การแอบอ้างใช้ชื่อบุคคลซึ่งอาจทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
- การโพสรูปภาพที่ไม่เหมาะสม หรือ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
- หากพบเห็นรูปภาพหรือกระทู้ที่ไม่เหมาะสมสามารถเมล์เข้ามาได้ที่ freewebboard@thaimisc.com โดยระบุ subject "กระทู้ไม่เหมาะสม" พร้อมทั้งระบุ ADDRESS ของเว็บบอร์ด
ผู้ช่วยเหลือ-แหล่งข้อมูล |
[ คีตธรรม ] [ ตารางสี ] [ ค้นหาเพลง ] |
ลานภาพ |
ค้นหา |
สร้างสรรค์โดย http://www.abhidhamonline.org |