ดับทุกข์ที่ใจเรา
เมื่อใด..ความทุกข์เกิดขึ้นที่ใจของเรา
ความทุกข์นั้นๆก็ย่อมดับลงได้..ด้วยใจของเรา
การดับทุกข์ด้วยใจของเรา
ด้วยวิธีการที่แยบคายแห่งธรรม
ย่อมตรงจุด..และง่ายกว่า
การที่จะมัวฟูมฟายซัดซ่ายหาทางดับทุกข์
จากที่อื่น หรือคนอื่นในโลก
เพราะความทุกข์เกิดขึ้นที่ใจเรา
เราต้องกำจัดดับทุกข์นั้นด้วยใจของเราเอง
ไม่ง่ายเลยที่เราจะทำใจให้สงบ และจบจากความวุ่นวายใจ ร้อนใจในเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา ด้วยความอุปทานในอารมณ์นั้นๆตรึงรัดมัดใจเราให้เสมือนคนพิการนั่นเอง จึงก็ยากที่จะเดินออกจากเรื่องเก่าๆ และก็ตกอยู่ในความเศร้าหมองอยู่มิรู้วาย
เมื่อแขนขาของคนเราไม่แข็งแรง ยังต้องมีการรักษาโดยกายภาพบำบัด เพื่อสร้างกล้ามเนื้อที่ลีบเล็กให้เกิดมามีกำลัง และการบำบัดเช่นนั้นก็ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ อาศัยเวลาและความเพียร
แต่ใจที่พิการนี่ซิ ยากที่จะเยียวยาด้วยโอสถขนาดใด นอกเสียจากพระธรรมคำสั่งสอนที่ทรงชี้แนะทางออกของชีวิตที่ติดอยู่ด้วยอุปาทานแห่งอารมณ์เท่านั้น ที่จะเป็นโอสถทิพย์ราดรดบาดแผลในใจให้หายได้
ความเมตตา และความรู้จริง เท่านั้นที่จะเป็นยาสมานใจที่วิเศษที่สุด ที่เราเองจะต้องบ่มเพาะบำรุงให้เจริญขึ้นที่ตนเท่านั้น
ความเมตตาคือความปรารถนาดีต่อผู้อื่นและตนเอง ด้วยความสงสารที่เห็นเพื่อนร่วมเกิดมีความทุกข์เกิด ไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตาม ด้วยความรู้จริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งปวงก็คือวิบากที่เกิดขึ้นจากกรรมที่เขาและเราทำมาเองทั้งสิ้น เมื่ออำนาจของกรรมยังให้ผลอยู่ ต่างก็ต้องเผชิญความทุกข์ต่อไปอย่างไม่มีเงื่อนไข
การยอมรับวิบากด้วยความรู้จริงนี้เท่านั้นที่จะสลายคลายความอุปาทานให้เบาลงหมดลงได้ การแก้ไขที่ใจเราจึงเป็นสิ่งที่สำคัญนั่นเอง .
ด้วยความปรารถนาดีค่ะ
บุษกรเมธางกูร.
หน้า:
[1]