แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2020-1-21 19:09
ความมืดมิได้ให้อิสระเสรีภาพแก่เราเลยสักนิด แต่เป็นอาณาบริเวณที่กักขังให้เราซ่อนเร้นตนเองจากความจริงที่ไม่กล้ายอมรับอย่างซึ่งหน้า ความมืดจึงเป็นเสมือนเกราะคุ้มกันผู้อ่อนแอให้อ่อนแอยิ่งขึ้น และยังทำให้หลงคิดไปว่า การกระทำที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
นับแต่โบราณกาลมาจึงมีผู้พยายามคิดค้นหาสิ่งที่ให้แสงสว่างเพื่อทำลายความมืดในยามค่ำคืนให้สิ้นไป แต่การอยู่ในแสงสว่างก็ใช่ว่าจะพ้นไปจากความมืดได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน เพราะเมื่อหันเข้าหาแสงเมื่อใด ที่ด้านตรงข้ามหรือด้านที่อยู่ข้างล่างก็ยังมีความมืดปรากฏเป็นเงา
ฉะนั้น ในยามใดก็แล้วแต่ที่ชีวิตของเราพบกับความมืด และเราไม่มีแสงไฟมาเป็นเครื่องมือช่วยเหลือ ..เราจึงต้องรู้จักสงบ...เพื่อที่จะพิจารณาตรวจตราสิ่งที่เป็นไปรอบข้างให้ชัดเจน โดยต้องใช้ประสาทสัมผัสเท่าที่มีอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อช่วยในการระวังภัย และแก้ไขปัญหา เพราะการรู้จักสงบและพิจารณานี้เปรียบเสมือนการฉายแสงจากดวงใจให้มีความเตรียมพร้อม เพื่อที่จะพาตนไปให้พ้นจากความมืดนั้นได้
วิถีชีวิตของชาวพุทธจึงเป็นวิถีที่ดำเนินไปสู่ความสว่างคือ สว่างด้วยการรู้จัก และแก้ไขด้วยเหตุผล เพื่อพาตนให้พ้นจากปลักที่มืดมนไปได้ในที่สุด
ด้วยความปรารถนาดี
พี่ดอกแก้ว
|