ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
ดู: 80|ตอบกลับ: 5

อิ่มบุญ อิ่มธรรม ตอน 5.

[คัดลอกลิงก์]

293

กระทู้

126

ตอบกลับ

8504

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
8504
โพสต์ 4 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน

S__67895518.jpg

บทที่ 6
การทำบุญเลี้ยงพระเพื่อถวายกุศลแด่หลวงพ่อเสือนั้นนอกจากจะจัดงานที่วัดศรีประวัติโดยพวกเราทั้งหมดแล้ว ก็ยังมีการทำบุญเลี้ยงพระที่วัดสุทัศน์ซึ่งพี่ฟูเป็นเจ้าภาพและที่สำคัญคือที่บ้านของเราศาลาเสือพิทักษ์ที่พุทธมณฑลสาย 4 ได้มีการทำความสะอาดและประดับประดาตกแต่งดอกไม้สดที่บริเวณองค์รูปเหมือนของหลวงพ่อไว้อย่างประณีตงดงามเจริญตาเจริญใจโดยฝีมือของคุณอัญชลี สมโสภณหรือหมออุ๊และพี่เล็กผู้เป็นสามีที่เป็นผู้จัดหาดอกไม้มาด้วยตนเองและประดับตกแต่งจนสวยงามจึงบอกกล่าวไว้ ณ ที่นี้เพื่อให้ทุกคนร่วมอนุโมทนาในความกตัญญูกตเวทิตาต่อหลวงพ่อเสือและสถานที่ที่ให้ความรู้ทางธรรมนี้ด้วย


กล่าวมาถึงตรงนี้ก็เชื่อว่าแต่ละคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวคงจะมีจิตที่ดีเกิดขึ้นมากมายทั้งในการระลึกถึงการบริจาคของตนเองการร่วมพิธีตามขั้นตอน และการอนุโมทนา รวมทั้งการแสดงมุทิตาจิตแก่ผู้ที่มีส่วนในการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาแด่หลวงพ่อท่านและเชื่อว่าศิษย์เสือพิทักษ์แต่ละคนที่อยู่ในพื้นที่ต่าง ๆก็คงจะทำกุศลตามความถนัดเพื่อกราบถวายเป็นเครื่องสักการะเนื่องในโอกาสวันที่ 22มิถุนายนของทุกปี

293

กระทู้

126

ตอบกลับ

8504

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
8504
 เจ้าของ| โพสต์ 4 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด

ขอย้อนกลับไปในช่วงทำบุญสักนิด เพราะในช่วงนั้นก็ได้พูดคุยถึงความเป็นมาของการจัดงานและนำคำของหลวงพ่อท่านมาฝากลูก ๆ อยู่หลาย ๆ คำและก็มีลูกศิษย์บางคนที่แวะเวียนมาหาที่บ้านก็จะมีโอกาสได้รับการถ่ายทอดธรรมะหลายๆ หัวข้อเพื่อไปปรับปรุงชีวิตเพราะปกติแล้วในชีวิตประจำวันก็จะมีโอกาสพูดคุยสนทนาธรรมกับลูกศิษย์และบุคคลต่าง ๆอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อมีเรื่องราวที่พิเศษเป็นเรื่องสอนใจให้คติได้ก็จะนำมาถ่ายทอดให้เกิดประโยชน์อย่างสุดความสามารถอย่างเวลาที่อาภามาหาที่บ้านก็จะสรุปธรรมะชี้ถูกชี้ผิดให้ฟังเสมอ รู้สึกอย่างไรกับคำว่า“โอกาส” ที่ได้รับฟังที่บ้าน


IMG_8302.JPG



อาภา : บรรยากาศในวันนี้คล้ายกับกิจกรรมปกติในศาลาเสือพิทักษ์เลยนะคะที่มีการอธิบายหัวข้อธรรมให้ทำความเข้าใจและมีการให้แสดงความเห็นหรือความรู้สึกที่ได้รับจากหัวข้อธรรมนั้นต้องเรียนว่าการให้แสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกนี้เป็นส่วนที่ดีมากเหมือนมีการวิจัยธรรมและมาเล่าสู่กันฟังในแง่มุมที่แต่ละคนเข้าใจการเล่าสู่กันฟังก็อาจจะไปช่วยเติมความเข้าใจที่ยังขาดหายไปหรือมุมที่ยังมองไปไม่ถึงให้มีความเข้าใจหรือมุมมองที่กว้างขึ้น เพราะแต่ละคนจะได้แง่มุมที่ต่างกันตามพื้นฐานของความสนใจ

แต่ละครั้งที่ไปบ้านท่านอาจารย์ ก็จะได้รับฟังเรื่องราวต่างๆที่ล้วนมีบทสรุปลงที่ธรรมะทุกครั้ง ท่านอาจารย์จะยกเหตุการณ์นำเรื่องขึ้นมาก่อน แล้วแยกแยะออกเป็นส่วนๆอธิบายเป็นขั้นๆเป็นตอนรวมทั้งถ่ายทอดคำสอนคำแนะนำของหลวงพ่อท่านให้ทราบด้วยโดยเฉพาะคำถามที่ท่านได้รับจากลูกศิษย์ซึ่งเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตท่านก็จะเมตตายกมาเป็นอุทาหรณ์เพื่อให้รับรู้และนำไปปรับปรุงชีวิตให้มีความไม่ประมาท


อย่างเรื่องของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากที่อยู่อาศัยนั้นก็ได้รับฟังมาก่อนหน้านี้และได้เห็นลีลาทางความคิดตลอดจนกระบวนการตัดสินใจที่ติดขัดด้วยคำถามบางประการและกระบวนการตัดสินใจที่ราบรื่นรวดเร็ว เมื่อได้รับคำชี้แนะให้เห็นความสำคัญของคำว่า“โอกาส” โดยส่วนตัวเชื่อว่าผู้ที่ขอความช่วยเหลือจากท่านอาจารย์จะเป็นผู้ที่หมดทางต่อสู้ด้วยตนเองแล้วจริง ๆเพราะเขาต้องฝ่าด่านความละอายแก่ใจก่อนเอ่ยปากขอรับความช่วยเหลือจากผู้อื่น และก็คงทราบด้วยว่าท่านอาจารย์เป็นผู้มีใจดีเพราะให้การช่วยเหลือเขามาแล้วหลายๆ ครั้งด้วยความเต็มใจ   ดังนั้น ถ้าไม่ถึงคราวจำเป็นจริงๆเขาก็คงไม่เอ่ยปากเช่นนั้น และท่านอาจารย์ก็เติมเงินให้มากกว่าจำนวนที่ขอมาเพราะคิดว่าน่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าพาหนะอีกเล็กน้อยท่านอาจารย์จะเป็นผู้ให้ที่ใจดีเช่นนี้เสมอ


293

กระทู้

126

ตอบกลับ

8504

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
8504
 เจ้าของ| โพสต์ 4 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2025-6-27 16:52





สำหรับคำแนะนำจากหลวงพ่อในวันนี้เกี่ยวกับเรื่องของชวนะได้ฟังแล้วก็ชัดเจนเลยว่า เมื่อทำอะไรแล้วเรามักหวังผลให้เกิดขึ้นทันทีแล้วเราก็ผิดหวังกันมาตลอด ทั้งที่เราก็เรียนมาแล้วว่ายากนักที่ชวนะดวงที่ 1 ในวิถีจิตของเราจะให้ผลได้หนักแน่นเท่ากับชวนะดวงที่1 ของผู้ที่ทำบุญกับพระอรหันต์ที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ ที่พอใส่บาตรปุ๊บก็รวยขึ้นมาทันทีเลยได้เห็นความบกพร่องของตัวเองที่ทำอะไรแล้วมักหวังผล  และก็คิดไม่ทันเรื่องชวนะดวงที่ 1นี้อีกก็เลยมีความผิดหวัง มันเป็นสภาพของความโง่ที่สั่งสมในชีวิตเราอยู่ตลอดเวลาเห็นถึงความพลาดพลั้งในชีวิตของเราเลยว่าเราสร้างสิ่งเหล่านี้เพราะว่าเราไม่รู้เท่าทันสิ่งที่เราได้เรียนไปแล้ว.


อาภา 2.JPG



ขอนำกลับเข้ามาสู่บรรยากาศภายหลังการรับประทานอาหารก็มีความรู้สึกที่ดีที่ได้ทราบความรู้สึกของลูกศิษย์หลายๆ คนจากคำพูดและจากอากัปกิริยารวมทั้งแววตาของลูกศิษย์อีกหลายคนที่ยังไม่ได้แสดงความรู้สึกหลวงพ่อท่านบอกว่า ขณะนี้สภาพความเป็นไปของโลกนั้นน่าเป็นห่วงและเกินความสามารถที่เราจะเข้าไปแก้ไข ขอให้นึกถึงหลักความจริงของปริยัติที่ว่าเราทำบุญในวันนี้จะให้ผลชัดเจนทันทีหรือไม่ จึงอย่าไปน้อยเนื้อต่ำใจจนเห็นว่า ทำดีไม่ได้ดีหรือทำดีกับอาจารย์แล้วแต่อาจารย์ก็มองไม่เห็นหรืออาจารย์มองเห็นความดีของคนอื่นแต่มองไม่เห็นความดีของเราจึงจะต้องนึกถึงชวนะดวงที่ 1 ให้มากๆ

ชวนะดวงที่ 7 ให้ผลในชาติหน้าและถ้าไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ไม่สามารถให้ผลได้ต้องเป็นอโหสิกรรมไปเราเรียนเรื่องชวนจิตแล้ว มีความรู้แล้วว่าดวงไหนจะมาให้ผลในชาติใดแต่ก็ยังไม่รู้อีกว่า จะมาให้ผลตอนไหนในชาตินั้นๆ ? ฉะนั้นก็อย่าไปคิดอะไรมาก อย่าไปหวังว่าชาตินี้เราทำแล้วจะต้องได้รับผลอะไรคืนมา  เพราะแรงของชวนะดวงที่ 1นั้นอ่อนมากเพิ่งเริ่มต้น ท่านสอนอยู่เสมอว่า “อย่ากลัวว่าน้ำจะไม่เต็มตุ่มแต่ให้กลัวว่าจะไม่มีแรงตักน้ำจะดีกว่า”  บุญเล็กๆน้อยๆ ให้ทำไปเรื่อยๆ เหมือนตักน้ำใส่ตุ่ม แต่อย่าหยุดทำ อย่าไปเสียใจกับความดีที่ได้ทำไปแล้วแต่จงเสียใจกับการมีโอกาสและความสามารถแต่ไม่ได้ทำ เพราะเรากำลังเดินตามทางของพระโสดาบันซึ่งมีลักษณะพิเศษประการหนึ่งคือมีจิตใจพร้อมบริจาคทุกเมื่อ ใจของเราก็ต้องพร้อมบริจาคพร้อมเสียสละความที่มีโอกาสและความสามารถและการรักษาวินัยคือศีลให้ไม่ด่างพร้อย

293

กระทู้

126

ตอบกลับ

8504

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
8504
 เจ้าของ| โพสต์ 4 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2025-6-27 16:54





การไปสู่ความดีขั้นสูงจะต้องปรับชีวิตให้มีพื้นฐานความดีที่แข็งแรงมั่นคงด้วยศีลมีความรอบคอบในการนึกคิดเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นและเมื่ออยู่คนเดียวหมั่นทำสมาธิไว้บ้างโดยมีเป้าหมายเพื่อกำจัดนิวรณ์ทั้ง 5ประการ คือ กามราคะ พยาปาทะ ถีนมิทธะ อุทธัจจะกุกกุจจะ และวิจิกิจฉา  เพื่อให้มีจิตสงบได้มากขึ้นเพราะนับวันโลกจะอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆจะมีความเปลี่ยนแปลงมากมายจึงต้องใช้ชีวิตอย่างรอบคอบจัดเตรียมปัจจัยสี่สำหรับดูแลชีวิตให้เพียงพอ ดูแลชีวิตให้มีสติมากขึ้นหมั่นระลึกรู้สึกตัวว่า  “ทำไปเพื่ออะไรมีตัวการอะไรในการทำ ตัวการนั้นดีหรือชั่ว ทำแล้วให้ผลอย่างไรและใครเป็นผู้ได้รับ” อะไรที่ทำแล้วจะไม่ให้ผลดีแก่ชีวิตก็ให้เลิกทำเสีย เวลาของเราเหลือน้อยลงกันทุกทีแล้วจึงควรเลือกทำแต่สิ่งที่ดี

ในทางโหราศาสตร์วันที่ 26 มิถุนายนนี้ ดาวอาทิตย์ส่งผลโดยตรงต่อคนที่อยู่ กทม.คลื่นความร้อนก็จะค่อยๆ แผ่ขยายเข้ามา ซึ่งอาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมหมาย ๆ อย่างเราจึงต้องมีความรอบคอบในการใช้ชีวิตให้ปลอดภัยและมีจุดหมายอย่างชีวิตของอาจารย์เองก็จะคลุกคลีอยู่การนำเสนอข้อเขียนทางเว็บไซต์เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกคนเพราะมีความปรารถนาที่จะเป็นที่พึ่งที่เป็นประโยชน์ให้น้องๆซึ่งมั่นใจว่าสามารถทำหน้าที่นั้นได้จริงและทำอย่างสุดความสามารถเพื่อคนที่อยู่ใกล้และอยู่ไกลสิ่งที่ได้ทำไปแล้วเป็นความปีติใจและยินดีที่จะมีชีวิตเพื่อทุกคนพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาให้ทุกคนและช่วยเหลือเท่าที่มีความสามารถ


นอกจากเรื่องของความร้อนของสถานการณ์ต่าง ๆ แล้วก็ยังมีเรื่องของพลังงานเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าที่ใช้ประจำวันที่อาจหยุดช่วงการแจกจ่ายด้วยข้อขัดข้องบางประการ แต่ไม่ควรจะไปกังวลมากหากเชื่อเรื่องบุญบาปแล้วก็เร่งทำบุญของตนเองเข้าไว้จัดเตรียมเงินสดไว้บ้างเพื่อใช้จ่ายในช่วงหนึ่งเดือนให้เพียงพอเพราะบางทีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าอาจใช้งานไม่ได้ในวันที่เรามีความจำเป็นต้องใช้เงินหรือบางสถานที่อาจรับชำระเป็นเงินสด ขอให้เตรียมไว้พอประมาณด้วยความระวังแต่อย่าระแวง


293

กระทู้

126

ตอบกลับ

8504

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
8504
 เจ้าของ| โพสต์ 4 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2025-6-27 10:43





นอกจากจะเร่งบุญด้วยการสร้างกุศลที่เนื่องด้วยบุคคลอื่นแล้วเราต้องเร่งบุญที่ทำได้ง่าย ๆ และสร้างกำลังใจที่ดีด้วยการสวดมนต์ “บทอรหันต์แปดทิศ”ให้ได้ทุกวันก่อนเข้านอน โดยขอให้เตรียมพร้อมดังนี้

1.นั่งในท่าขัดสมาธิหรือท่าที่เรียบร้อยพร้อมสงบนิ่ง
2. ระลึกว่า “ข้าพเจ้าเป็นชีวิตที่ยังอยู่ในโลกยังไม่ทราบว่าจะต้องพบกับอะไรบ้างในโลกนี้ ข้าพเจ้าไม่ทราบเลยว่าวิบากอะไรจะมาส่งผลจึงขออัญเชิญพุทธมงคลคาถาอันศักดิ์สิทธิ์มาคุ้มครองให้มีชีวิตปลอดภัย เพื่อจะได้สร้างสมสติสัมปชัญญะและบารมีต่อไป”
3. ออกเสียงสวดมนต์โดยสวดช้า ๆ ไปทีละบท  


“สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ นิสินโน เจวะ มัชฌิเม”.....หยุดออกสียง แล้วให้นึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้
มาปรากฏอยู่ที่ด้านหน้า  

“โกณฑัญโญ ปุพพะภาเค จะ” .... หยุดออกเสียงแล้วให้นึกภาพตัวเองเอียงหันไปทางด้านขวา เอียงใจไปเท่านั้นไม่ต้องเอียงกายตาม แล้วนึกถึงภาพพระโกณทัญญะหยุดหายใจชั่วขณะแล้วพนมมือรับพรจากท่าน

“อาคะเณยเย จะ กัสสะโป”.... หยุดออกเสียงแล้วให้เอียงใจถัดต่อไปเพื่อหันหน้าให้ตรงกับพระมหากัสสปะฯ แล้วรับพร

“สารีปุตโต จะ ทักขิเณ”.... หยุดออกเสียงแล้วให้เอียงใจต่อไปเพื่อหันหน้าให้ตรงกับพระสารีบุตรฯ แล้วรับพร

“หะระติเย อุปาลี จะ”.... หยุดออกเสียงแล้วให้เอียงใจต่อไปเพื่อหันหน้าให้ตรงกับพระอุบาลีฯ แล้วรับพร

“ปัจฉิเมปิ จะ อานันโท” .... หยุดออกเสียงแล้วให้เอียงใจต่อไปเพื่อหันหน้าให้ตรงกับพระอานนท์ฯ แล้วรับพร

“พายัพเพ จะ คะวัมปะติ” .... หยุดออกเสียงแล้วให้เอียงใจต่อไปเพื่อหันหน้าให้ตรงกับพระควัมปติฯ แล้วรับพร

“โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร”.... หยุดออกเสียงแล้วให้เอียงใจต่อไปเพื่อหันหน้าให้ตรงกับพระโมคคัลนะฯ แล้วรับพร

“อิสาเณปิ จะ ราหุโล”.... หยุดออกเสียงแล้วให้เอียงใจต่อไปเพื่อหันหน้าให้ตรงกับพระราหุลฯ แล้วรับพร

“อิเมโข มังคะลา พุทธา สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา”..หยุดออกเสียง แล้วนึกถึงไปตลอดร่างกายนับตั้งแต่ศีรษะลงมาให้มีความรู้สึกว่าร่างกายตั้งตรง ให้ถึงชื่อพระอรหันต์อยู่อยู่ประจำแปดทิศ  และระลึกว่า สักวันเราจะทำอย่างท่านให้ได้

“วันทิตา เต จะ อัม๎เหหิ สักกาเรหิ จะ ปูชิตา”...หยุดออกเสียงแล้วให้ทำความรู้สึกเหมือนชีวิตเราลอยขึ้นไม่ได้ติดดิน คือเป็นชีวิตที่เบา

“เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถีภะวันตุ โน ฯ”...หยุดออกเสียง แล้วนึกถึงกลดพระหรือร่มสีขาวที่ครอบลงมาจากเบื้องบนศีรษะจนคลุมทั้งตัวและให้เกิดความสวัสดี

“อิจเจวะมัจจัน ตะนะมัสสะเนยยัง ...หยุดออกเสียงแล้วนึกเนรมิตสายรุ้งไว้รอบตัว แล้วสวดไปจนจบบท

“นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง ปุญญาภิสันทังวิปุลัง อะลัตถัง ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย ฯ”

..อธิษฐานว่า ขอให้อันตรายทั้งปวงจงพินาศสิ้นไป
หลวงพ่อท่านบอกให้ทำอย่างนี้ก่อนนอนทุกวัน เพื่อระลึกว่ารอบชีวิตของเรามีแต่พระที่เป็นอรหันต์ ระลึกถึงคุณของท่านให้คุ้มครองเรา และให้มีเป้าหมายว่าเราจะอยู่เพื่ออะไร เราไม่อยากจะมีโรคภัยไข้เจ็บที่รุนแรงที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ก็ต้องเจริญอยู่ในกุศลให้มากที่สุด

293

กระทู้

126

ตอบกลับ

8504

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
8504
 เจ้าของ| โพสต์ 4 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2025-6-27 10:55



และการสวดมนต์นี้ก็เป็นการเจริญอิทธิบาทได้ประการหนึ่งไม่ใช่การใช้คำพูดว่า มีฉันทะที่จะทำ เช่นมีฉันทะที่จะเรียนธรรมะคำแบบนั้นเป็นเรื่องของปริยัติเป็นการนำมาพูดด้วยการท่อง เพราะเราต้องรู้จริงว่าที่ยังดำเนินชีวิตอยู่ได้ก็เพราะวิบาก แล้วก็รู้ว่าเสบียงชีวิตยังไม่พอจึงแสดงความเคารพด้วยการกราบไหว้พระอรหัตน์ เคารพในคุณ เคารพในสติปัญญา เรามี“ฉันทะ” ที่จะปฏิบัติเช่นนี้ และมี “วิริยะ”ที่จะกระทำทุกวันเมื่อถึงเวลาก็กระทำทันที  มี “จิตตะ” คือการเอาใจใส่บทสวดตั้งมั่นจิตอย่างแน่วแน่เพื่อการสวด  และมี “วิมังสา”คือการระลึกไตร่ตรองในคุณและคำอธิษฐานด้วยสติสัมปชัญญา ท่านบอกทำอย่างนี้แหละ คือการเจริญอิทธิบาทเพื่อทำให้ชีวิตปลอดภัยคนจะตายก็ต่ออายุได้ คนป่วยเจ็บก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้

สุดท้ายนี้ กุศลกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมที่ได้กระทำมาขอนำมารวมเป็นพลังดวงใหญ่ ๆ ( เหมือนใจ อ.) เพื่อแสดงความมั่นใจ และมั่นคงที่จะช่วยเหลือทุกคนขออนุโมทนากับทุกท่าน ขอกราบคารวะในใจที่มีความกตัญญูกตเวทิตาคุณที่มีความดีในชีวิตมีความเสียสละ และมีความพร้อมเรียนรู้แล้วพร้อมเดินตามทางหลวงพ่อเพื่อความพ้นทุกข์ขอกุศลเหล่านั้นจงได้เป็นพรอันประเสริฐเป็นมงคลที่คุ้มครองชีวิต และเป็นรอยทางที่ก้าวเดินไปด้วยกันเพื่อความพ้นทุกข์และปลอดภัยขอขอบคุณมาก.



ทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ในวันที่ 22 มิถุนายน ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
รวมถึงการพยายามถ่ายทอด ความอิ่มบุญ อิ่มธรรม ออกมาเพื่อทุกๆคนได้ตระหนัก
และเกิดปิติในกุศล ได้ครบทั้งสามกาล


หวังอย่างยิ่งว่า จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการจดจำได้ ในการกระทำกุศลที่ผ่านมาและที่จะมีอีกต่อๆไป

สวัสดีค่ะ





ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ข้อความล้วน|อุปกรณ์พกพา|ประวัติการแบน|อภิธรรมออนไลน์

GMT+7, 2025-7-1 10:34 , Processed in 0.084799 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.9

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้