ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
ดู: 39|ตอบกลับ: 5

อยู่อย่างปลอดภัยในร่มเงาเสือพิทักษ์ (4)

[คัดลอกลิงก์]

300

กระทู้

158

ตอบกลับ

9044

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
9044
โพสต์ เมื่อวาน 15:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน


กราบหลวงพ่อ.png



การบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเห็นถูกลงไปในชีวิตของลูกศิษย์แต่ละคนเป็นเรื่องยากที่จะเห็นผลได้เสมอกันขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื้อนาที่เพาะหว่านพืชพันธุ์ชนิดเดียวกันปลูกในเนื้อดินที่ต่างกันย่อมให้ผลที่แตกต่างกันไม่มากก็น้อยการสอนธรรมะในที่สาธารณะนั้นมีปัจจัยหลักที่นอกจากครูผู้สอนและกลวิธีในการสอนแล้วยังขึ้นกับสภาพของสติปัญญาของผู้ถูกสอนเป็นสำคัญ แต่ไม่ว่าจะมีสติปัญญาที่แตกต่างกันอย่างไร เมื่อได้รับความรู้ในเรื่องเดียวกันเข้าไปแล้วก็เหมือนมีมวลดอกไม้ต่างพันธุ์ต่างสีสันเจริบเติบโตเป็นลำต้นก้าน กิ่ง ใบ ดอกตูม ดอกบาน ชูสลอนสวยงามในขณะนั้น


ผู้ที่มีสติปัญญาติดตัวมามากก็มีความเข้าใจได้มากผู้ที่มีติดตัวมาไม่มากก็เริ่มมีความรู้ขึ้นมาบ้างและพร้อมที่จะสร้างสมต่อไปจึงไม่มีอะไรที่สูญเปล่าหรือเสียไปในการมาพบกันแต่ละครั้งในบ้านเสือพิทักษ์บางคนได้สาระธรรมไปพัฒนาความรู้ บางคนได้แนวทางการปฏิบัติเพื่อละกิเลสบางคนได้แนวทางในการดำรงชีวิตที่สุจริต บางคนได้ข้อคิดข้อเตือนใจเพื่อควบคุมอารมณ์และกิเลสเป็นครั้งคราว  บางคนก็ได้บำเพ็ญกุศลประเภทต่าง ๆแม้จะยังไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างเสบียงไปสู่การหลุดพ้น


ตลอดระยะเวลานับสิบปีภายใต้รมเงาของบ้านเสือพิทักษ์แห่งนี้มีบทเรียนมากมายให้ได้เรียนรู้ ทำความรู้จัก และสร้างความข้าใจ โดยเฉพาะลักษณะ 3ประการของทุกสรรพสิ่งที่ปรากฏบนโลกและจักรวาล นั่นคือ อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา หลายคนยังมีชีวิตอยู่หลายคนได้จากไป หลายคนเจ็บป่วย หลายคนร่ำรวยยากจนต่างไปจากเดิม แม้กระทั่งความรู้ทางปริยัติที่เคยมีก็คลาดเคลื่อนไปจำได้ไม่แม่น..หลวงพ่อท่านบอกว่า อะไรที่ไม่ค่อยได้ใช้ มันก็จะเสื่อม


300

กระทู้

158

ตอบกลับ

9044

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
9044
 เจ้าของ| โพสต์ เมื่อวาน 15:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด



สิ่งหนึ่งที่แต่ละคนต้องเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อเวลาถูกเรียกถามจะได้ตอบท่านได้นั่นคือ ผลของบุญกิริยาวัตถุ และผลของอกุศลกรรมบถโดยปกติจะมีสมาชิกตัวน้อยอยู่ท่านหนึ่งที่รับหน้าที่ท่องปากเปล่าให้สมาชิกผู้เฒ่าผู้แก่รับฟังในสมัยนี้ก็คงจะเรียกน้องคนนั้นว่า “ตัวแทนหมู่บ้าน” ในการแสดงการท่องจำซึ่งการฝึกฝนด้วยการท่องจำแบบนี้เป็นการสร้างวินัยและหลักตัดสินที่ถูกต้องให้แก่ลูกศิษย์ได้โดยตรงและเป็นสัมมาทิฎฐิ

การท่องจำความรู้เหล่านี้ให้แม่นยำก็จะเสมือนเป็นกฎเหล็กให้เรามีความยับยั้งชั่งใจระวังการละเมิดศีลเพราะได้ทราบผลแล้วว่าจะมีโอกาสได้รับสิ่งใดได้บ้าง ซึ่งจะขอยกตัวอย่างเกี่ยวกับการรักษาศีลดังนี้

การละเมิดศีล 5 ข้อที่ 1 คือ ปาณาติบาตการฆ่าสัตว์

องค์ประกอบของการล่วงศีลคือสัตว์นั้นยังมีชีวิตอยู่ รู้ว่าสัตว์นั้นยังมีชีวิต มีจิตคิดจะฆ่า มีความพยายามฆ่าและสัตว์นั้นได้ตายลง

ผลในปฏิสนธิการคือเกิดเป็นสัตว์นรกหรือเปรตหรือเดรัจฉานส่วนผลที่ได้รับในปวัตติกาลคือภายหลังการเกิดขึ้นมาแล้วในภพชาติไปจนกระทั่งตาย มี9 ประการ คือ


(1) ทุพพลภาพ (2) รูปไม่งาม  (3)กำลังกายอ่อนแอ (4) กำลังกายเฉื่อยชา กำลังปัญญาไม่ว่องไว (5) เป็นคนขลาดหวาดกลัวง่าย(6) ฆ่าตนเอง หรือถูกฆ่า (7) โรคภัยเบียดเบียน (8) มีความพินาศของบริวาร (9) อายุสั้นและผลที่ไดรับจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับคุณของสัตว์ที่ถูกฆ่าและกำลังเจตนาในการฆ่าเป็นสำคัญ


หลวงพ่อเสือท่านสอนเรื่องที่เข้าใจยากให้เข้าใจได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ภาษาพื้นๆ อธิบายความทั้งในแบบอนุโลมคือเริ่มตามลำดับจากเหตุไปสู่ผล  และแบบปฏิโลมคือย้อนลำดับจากผลไปสู่เหตุ เพื่อให้เกิดความตระหนักอย่างทั่วถึงและกระจ่างใจว่า “ไม่มีใครดลบันดาลใครเป็นอะไรได้” และ “คนเราอาจจะเก่งเกินกันแต่ไม่เก่งเกินกรรม”   โดยในข้อของการฆ่าสัตว์นี้เพียงข้อเดียวก็สามารถทำให้ลูกศิษย์ยอมจำนนต่อเหตุผลนั้นได้แล้วผลทั้ง 9 ประการแห่งการฆ่าสัตว์นั้นเราไม่เคยอยากได้ และพยายามป้องกันแต่ทำไมยังมาเกิดขึ้นกับเราอีก ..มะเร็งมาจากไหน อุบัติเหตุมาได้อย่างไร อยู่ๆก็เดินสะดุดล้ม เป็นต้น







คำสอนอันโดดเด่นเพื่อตัดสังสารวัฏ คือ “ที่กระทบคือวิบากที่กำลังกระทำคือกรรม” จึงเป็นเหมือนคาถาประจำใจของลูกศิษย์ที่มีความไม่ประมาทในอุปนิสัย การสอนของหลวงพ่อในบางเรื่อง แม้จะยังไม่ได้เอ่ยคำศัพท์ทางพระอภิธรรมออกมาเลยสักคำแต่ก็ทำให้รู้ว่าแต่ละเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้นเมื่อนำมาตีความด้วยธรรมะแล้วความเป็นตัวตนคนสัตว์ก็ไม่มีหลงเหลืออยู่  



300

กระทู้

158

ตอบกลับ

9044

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
9044
 เจ้าของ| โพสต์ เมื่อวาน 15:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด


หัวข้อธรรมที่ลูกศิษย์เก่าจะได้รับฟังพร้อมลูกศิษย์ใหม่ซึ่งมีเข้ามาเกือบทุกสัปดาห์ก็คือเรื่องของอกุศลกรรมบถ๑๐ กับ  บุญกิริยาวัตถุ 10  และหัวข้อสุดท้ายของบุญกิริยาวัตถุ 10 คือทิฏฐุชุกัมม์ ซึ่งสำหรับลูกศิษย์ใหม่ๆก็มักจะได้รับคำอธิบายว่าเป็นหัวขบวนของการทำกุศลทั้งปวงเพราะมีความเห็นถูก  และสำหรับลูกศิษย์ที่เริ่มเก่าแล้ว ก็จะได้รับการเติมความรู้ลงไปอีกนิดว่า เป็นความเห็นถูกต้องตามสภาพธรรมความเป็นจริงจึงได้กระทำบุญอีก9 ประการนั้นให้เป็นบุญที่ประกอบไปด้วยปัญญา ซึ่งเป็นคุณภาพของบุญที่จะเกิดได้กับพุทธศาสนิกชนที่มีความรู้ความเข้าใจในพระธรรมอย่างถูกต้องแล้วเท่านั้น

บุญอีก 9ประการที่เป็นที่ตั้งแห่งความดีในชีวิตระจำวัน ประกอบด้วย ทานมัย  สีลมัย ภาวนามัย  อปจายมัย  เวยยาวัจจมัย ปัตติทานมัย  ปัตตานุโมทนามัย  ธัมมัสสวมัย และธัมมเทสนามัยเป็นบุญที่สามารถทำอย่างมีคุณภาพได้ด้วยทิฏฐุชุกัมม์ซึ่งเป็นบุญประการที่ 10และเมื่อกล่าวถึงเรื่องเหล่านี้แล้วก็ให้ระลึกถึงลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงพ่อ ที่บำเพ็ญตนอยู่ในบริบทของพุทธสาวกที่งดงามมาโดยตลอดบุคคลนั้นชื่อว่า “นายทอง เกตุเชื้อจีน” ปัจจุบันมีสถานภาพเป็นพระภิกษุซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์สายวิปัสสนากรรมฐานเป็นจำนวนมาก  ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีประวัติ บางกรวย นนทบุรี มีฉายาที่ได้รับเมื่ออุปสมบทว่า“ฐิตธมฺโม” แปลว่า “ผู้มีธรรมตั้งมั่น”  และมีนามเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั่วไปคือ  พระอาจารย์ทอง ฐิตธัมโม



300

กระทู้

158

ตอบกลับ

9044

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
9044
 เจ้าของ| โพสต์ เมื่อวาน 16:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด


ท่านพระทองหรือหลวงพี่ทองในสมัยที่เป็นฆราวาสท่านเป็นผู้มีความเคารพศรัทธาในหลวงพ่อเสือเป็นอย่างยิ่งมีความสนใจในการศึกษาธรรมและปฏิบัติตามคำสอนอย่างยิ่งยวดสิ่งที่หลวงพ่อท่านสอนแล้วหากไม่เหลือบ่ากว่าแรงในการนำไปปฏิบัติหลวงพี่ทองก็ทุ่มเทนำไปทำให้เกิดผลในชีวิตของตนตลอดมาอาจเรียกได้ว่าท่านมีหลวงพ่อเป็นต้นแบบหรือไอดอลในการดำเนินชีวิต

เมื่อท่านได้เรียนรู้จนตระหนักได้ด้วยตนเองว่าชีวิตของฆราวาสยังมีข้อจำกัดในการประพฤติพรหมจรรย์ชีวิตของนักบวชมีความคล่องตัวมากกว่าในการเดินทางไปบนทางสายเอก ดังนั้นนอกจากจะเตรียมความพร้อมที่ตนเองแล้วท่านยังได้เตรียมความพร้อมแก่ญาติพี่น้องด้วยการแสดงข้อธรรมต่างๆให้มีการรับรู้รับทราบ และเตรียมวางมือจากภาระทางโลกคือการทำมาหาเลี้ยงชีพท่านได้กำหนดจุดพอเพียงแห่งชีวิตทางโลกไว้ให้ครอบครัวญาติพี่น้องรับรู้และได้สละทรัพย์สินทั้งปวงพร้อมเพศฆราวาสเพื่อออกบวชสร้างเส้นทางของตนเอง


ก4.JPG



เจตนาที่งดงามของท่านนั้นได้ยังความปลื้มปีติให้เกิดขึ้นแก่ครูบาอาจารย์และผู้ที่ได้รับรู้โดยเฉพาะลูกศิษย์ของหลวงพ่อซึ่งเป็นสตรีสูงวัยทั้งที่ยังโสดหรือมีครอบครัวแล้วต่างก็สมัครเข้ามาเป็นเครือญาติกับท่านในฐานะแม่ของนาคและแม่ของพระถ้าเป็นสมัยนี้ท่านก็คงเป็นประเภทลูกชายแห่งชาติที่มีแม่ๆพร้อมจะเป็นโยมอุปัฏฐากเป็นจำนวนมาก



300

กระทู้

158

ตอบกลับ

9044

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
9044
 เจ้าของ| โพสต์ เมื่อวาน 17:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2025-7-7 17:28



พัทธสีมาวัดศรีประวัติในสมัยที่หลวงพ่อแสวงโชติปาโล ยังเป็นเจ้าอาวาสจึงเป็นสถานที่ที่มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิเลือกให้เป็นพื้นที่อุปัชฌาย์ทำพิธีบวช และทำการขอร้องเป็นพิเศษเพื่อให้หลวงพี่ทองมีสถานที่จำพรรษาอยู่ในบริเวณเรือนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของวัดศรีประวัติ จำได้ว่าในวันปลงผมนาคและวันบวชของหลวงพี่คือวันแห่งความสุขยิ่งวันหนึ่งของชาวมูลนิธิ


S__10280973.jpg



นับตั้งแต่หลวงพี่ท่านเข้าเป็นพระลูกวัดหน้าที่ประจำที่ท่านได้รับมอบหมายเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลพระสงฆ์ให้สามารถดำเนินชีวิตตามธรรมวินัยได้อย่างปกตินอกจากดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานปฏิบัติธรรมแล้วท่านยังดูแลเกี่ยวกับการจัดอาหารภายหลังการบิณฑบาตรเพื่อให้การกระทำภัตตกิจเป็นไปอย่างเรียบร้อยปราศจากการกักตุนด้วยการฉันร่วมกันทุกรูปโดยจัดเป็นวงสำรับและสำหรับสิ่งที่สงฆ์ได้อนุญาตแล้วเพราะเกินความจำเป็นในการฉันการใช้ท่านก็จะจัดสรรแบ่งปันไปให้แก่บุคคลที่เหมาะสมที่อยู่บริเวรใกล้เคียงที่มาช่วยเหลืองานของวัดและผู้ยากไร้ต่างๆ นอกจากนี้ท่านยังดูแลเกี่ยวกับความสะอาดของวัด การดูแลสัตว์จรจัดที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่วัดให้มีชีวิตที่ปลอดภัย

สำหรับกิจวัตรที่นอกเหนือจากกิจของสงฆ์ที่ต้องปฏิบัติเป็นประจำวันแล้วท่านก็จะศึกษาธรรม ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและเผยแผ่พระอภิธรรมตลอดจนแนวทางการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ญาติโยมที่มาสนทนาธรรมเป็นการส่วนตัวหรือนิมนต์ไปบรรยายธรรมทางสถานที่ต่าง ๆและการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลด้วยการไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวเป็นประจำทุกวัน

รวมทั้งท่านยังมีภารกิจของการเป็นกรรมการมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิอีกหน้าที่หนึ่งด้วยเรียกได้ว่า ท่านเป็นบุคคลตัวอย่างที่บำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุในชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพและไม่มีความเบื่อหน่ายในการกระทำแต่อย่างใด วิถีชีวิตแบบนี้อาจดูแล้วจำเจซ้ำซากแต่ทุกการกระทำของท่านเปี่ยมไปด้วยเมตตาจิตและความรู้ว่าทุกสิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นให้ผล





300

กระทู้

158

ตอบกลับ

9044

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
9044
 เจ้าของ| โพสต์ เมื่อวาน 17:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2025-7-7 17:25



อ่านมาถึงตรงนี้กันแล้วก็ขอให้ลองมองย้อนกลับมาดูที่ตนเองว่า


...ทุกวันนี้เราออกไปทำงานหรือออกไปทำกิจธุระต่างๆ เราไปเพราะนั่นเป็นหน้าที่หรือไปด้วยความเมตตาเราไปทำงานเพราะรู้ว่าจะได้รับเงินหรือรายได้คืนกลับมา..เป็นการกระทำที่มีตัณหาหนุนหลังออกจากบ้านไปแล้วก็ไปพบกับสิ่งเร้าอารมณ์ต่างๆ ทำให้มีความต้องการอยากได้ไปสารพัดอย่างในแต่ละวัน  

...ทุกวันนี้เราได้คุยธรรมะกับใครบ้างเคยไลฟ์สดหรือให้ความรู้ทางธรรมะแบบหลวงพี่ท่านบ้างมั๊ย  หรือมีแต่การแสดงละครชีวิตเป็นพระเอก นางเอกผู้ร้าย ตัวอิจฉา สลับบทบาทไปมาด้วยอำนาจของโลภะ โทสะ อยู่ตลอดเวลา  

...ชีวิตของหลวงพี่ทองจึงเป็นชีวิตที่มีคุณค่าควรแก่การอุปถัมภ์และเคารพกราบไหว้ในฐานะศาสนทายาทผู้งดงาม

มีคำสอนของหลวงพ่ออยู่คำหนึ่งที่พยุงจิตใจให้เกิดความสว่างไสวในการใช้ชีวิตคือ “ดูดีเก็บไปใช้ ดูชั่วเก็บมาละ”  นอกจากเรื่องราวของตนเองแล้วถ้าจำเป็นที่จะต้องดูหรือรับรู้เรื่องราวของผู้อื่น ท่านก็ให้ดูด้วยความไม่ประมาทไม่หลงมัวเมาไปตัดสินสัตว์บุคคล  แต่ให้ดูพฤติกรรมหรือการกระทำนั้นว่าดีหรือชั่ว ...ถ้าเป็นสิ่งดีและยังไม่มีที่เรา ท่านก็ให้นำสิ่งนั้นมาทำที่ตนถ้าเป็นสิ่งที่ชั่วก็ให้เตือนตนคอยระมัดระวังห้ามการกระทำแบบนั้นไม่ให้เกิดขึ้นที่ตน.



ภายใต้ร่มเงาของบ้านเสือพิทักษ์ ที่เขียนมาถึงเรื่องนี้
เพียงตั้งใจนำตัวอย่างที่ดีที่งดงามมาฝากทุกๆท่านได้ร่วมรู้
เพื่อพิจรณาสร้างประโยชน์แก่ตนเองกัน
เวลาเราไม่มีมากแล้ว ไม่มีพอที่จะอยู่กับอารมณ์จำเจซ้ำซากด้วยความขุ่นใจต่างๆ
หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้ท่านได้รับประโยชน์กันบ้าง











ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ข้อความล้วน|อุปกรณ์พกพา|ประวัติการแบน|อภิธรรมออนไลน์

GMT+7, 2025-7-8 22:38 , Processed in 0.084516 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.9

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้