บรรยากาศงานทอดกฐินของสำนักปฏิบัติวิปัสสนาอ้อมน้อยในวันอาทิตย์ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 9.00 น

Sahapol

บรรยากาศงานทอดกฐินของสำนักปฏิบัติวิปัสสนาอ้อมน้อยในวันอาทิตย์ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 9.00 น

คณะผู้ปฏิบัติธรรมและนักศึกษาพระอภิธรรมของมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิได้รวมตัวกันเพื่อจัดพิธีทอดกฐินสามัคคีประกอบด้วยเจ้าภาพใหญ่จำนวน 3 ราย คือ ๑. คุณซ้ง แซ่โง้ว และคุณจึงแซ่เตี่ย    ๒. คุณธารทิพย์  เคี่ยมสมุทร 3. คุณวันเพ็ญ ตั้งเจริญกิจสกุล ได้มีจิตศรัทธานำผ้าไตรจีวรตลอดเครื่องไทยธรรมบริวารกฐินมาประกอบพิธีท่ามกลางพระภิกษุที่อยู่จำพรรษา ณ สำนักปฏิบัติ โดยมีพระราชปฏิภาณโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามฯ เป็นประธานอำนวยการจัดงาน (รวมจำนวนเงินทอดกฐินทั้งสิ้น   631,180 บาท)

การทอดกฐินเริ่มเวลา 9.00 นาฬิกา โดยมีการแห่องค์กฐินรอบสถานที่ประดิษฐานพระสุพรรณรังสี จำนวน ๓ รอบ แล้วจึงกล่าวคำถวายผ้ากฐินแก่พระ เมื่อพระสงฆ์รับผ้ากฐินและมีฉันทานุมัติแล้ว พระปฏิภาณโสภณฯ ได้อธิบายเกี่ยวกับความสำคัญของประเพณีการทอดกฐินว่า เป็นประเพณีที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนอย่างหนึ่งที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนานตั้งแต่สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระภิกษุที่อยู่ห่างไกลได้เดินทางเพื่อไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ วัดพระเชตวัน พระภิกษุเหล่านั้นมีจีวรที่เปรอะเปื้อนเปียกชุ่ม และเปื่อยขาดด้วยความเก่า พระบรมศาสดาจึงทรงมีพุทธานุญาตให้ภิกษุอยู่จำพรรษารับผ้ากฐินได้หลังออกพรรษา การทอดกฐินเป็นบุญที่มีอานิสงส์มากเพราะถูกจำกัดด้วยไทยธรรมคือของที่ถวายว่าจะต้องเป็นผ้าผืนใดผืนหนึ่งในจำนวนไตรจีวรเท่านั้น  ถูกจำกัดด้วยเวลา คือต้องถวายภายใน ๑ เดือน นับตั้งแต่วันออกพรรษา  แต่ละวัดรับกฐินได้เพียงปีละ ๑ ครั้งเท่านั้น และจะต้องถวายเป็นสังฆทานจะถวายเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเหมือนทานอื่นไม่ได้   พระภิกษุที่รับกฐินได้จะต้องจำพรรษาที่วัดนั้นครบสามเดือนซึ่งจะต้องมีจำนวนตั้งแต่ ๕ รูปขึ้นไป เมื่อกาลทอดกฐินได้ผ่านพ้นไปแล้วพุทธศาสนิกชนจะสามารถถวายผ้าจีวรแด่พระภิกษุรูปใดก็ได้ไปจนถึงเดือนสี่

หลังจากนั้นพระสงฆ์ได้อนุโมทนากถา กรวดน้ำ และให้พรแก่ผู้มาร่วมพิธี โดยในท้ายที่สุดนี้ประธานมูลนิธิ ได้นำพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานน้อมเกล้าฯถวายกุศลที่ได้ร่วมกันกระทำในครั้งนี้เป็นราชสักการะด้วยสำนึกพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อเทิดพระเกียรติ.

Sahapol

เจ็ดสิบปีที่ครองราชสมบัติ
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์เพื่อสยาม

ทรงกอบร่างสร้างชาติให้งดงาม

ทรงมอบความเกษมสุขปลุกพารา

ทศพิธราชธรรมนำเวไนย

เป็นร่มเกล้าชาวไทยคุ้มรักษา

เย็นศิระทั่วถ้วนมวลประชา

สมสัจจาปฐมบรมราชโองการ

ทรงคุณานุคุณอดุลย์อนันต์

ไทยและเทศร่วมกันซ้องขับขาน

พระราชกรณียกิจอเนกประการ

ทรงแก้ไขกันดารสู่สมบูรณ์

ทรงเป็นดุจดวงใจไทยทั้งชาติ

บัดนี้ใจแทบขาดสลายสูญ

วันสิบสามตุลาโศกาดูร

น้ำตาท่วมพื้นภูมิประเทศไทย

จึงกอปรจิตรวมใจในวันนี้

นำน้องพี่สร้างกุศลผลสดใส

กฐินทานกาลธรรมแห่งเวไนย

ร้อยดวงใจสามัคคีสร้างมงคล

น้อมกุศลถวายราชสักการะ

ปวงข้าพระพุทธเจ้า ผู้ฝึกฝน

ใช้ชีวิตพอเพียงหล่อเลี้ยงตน

กราบพระผู้ผ่านพ้นสู่สวรรคาลัย.

สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวบุษกร เมธางกูร
ประธานมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ.