มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ

Moonlanithi Vipassana
Meditation
OnlineStudy
thai    english
Article สำนักวิปัสสนา
อ้อมน้อย
กิจกรรม About Us

[ Home ] [ ลานถาม-ตอบปัญหาธรรมะ ] [ ลานกวีธรรม ] [ ลานคิด เล่า เขียน ] [ ลานกลิ่นดอกแก้ว ] [ ค้นหากระทู้ ] [ สมัครสมาชิก ] [ login เข้าระบบ ]


ครบรอบชาตกาลท่านอาจารย์บุญมี ๑๕ มีนาคม








กราบบูชาครบรอบชาตกาลท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูร ๑๕ มีนาคม

กาลเวลาเดินทางสร้างรอยฝัน
ล่วงคืนวันผ่านสัญญาพารู้หมาย
ประวัติการก่อร่างสร้างรั้วราย
ปรากฏกาย "อภิธรรมมูลนิธิ"

ท่านอาจารย์บุญมีปรีชาเลิศ
ถ่ายทอดธรรมอย่างประเสริฐไร้ที่ติ
ยกตัวอย่างสร้างปัญญาพาเริ่มริ
ให้จิตใจบานผลิรู้บาปบุญ

ห้าสิบปีที่ท่านบั่นบากสอน
ทุ่มเทชีพเอื้ออาทรและอุดหนุน
ให้ประชาชนสร้างเสบียงทุน
ด้วยนำจิตคบคุ้นพระอภิธรรม

ท่านส่งเสริมการเรียนและการสอน
ปริยัติทุกบทตอนหลายฉนำ
ท่านดำริสร้างเรือนสำรวมกรรม
สติปัฏฐานน้อมนำสู่ศิษยา

จวบบัดนี้ที่ได้มีธรรมสถาน
หลายชีวิตได้เบิกบานเพราะศึกษา
หลายชีวิตงดงามด้วยวิปัสสนา
หลายชีวิตเพิ่มคุณค่ากุศลมัย

จึ่งขอกราบบูชาพระคุณท่าน
ผู้เริ่มฝันสรรสร้างทางสดใส
ผู้สละเพื่อสาธารณชนทั่วไป
ขอกราบในธรรมทานผู้สานธรรม





โดย คณะศิษย์มูลนิธิ [14 มี.ค. 2557 , 17:14:00 น.] ( IP = 125.27.168.56 : : ) เก็บกระทู้นี้ไว้ใน Bookmarkส่งกระทู้นี้ให้เพื่อนของคุณ


  สลักธรรม 1




เมื่อขาดปัญญาก็เป็นทาสของตัณหา
คัดมาจากหนังสือพระเจ้าหรือซาตาน โดย อาจารย์บุญมี เมธางกูร


ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายได้ค่อยๆ วิวัฒนาการมาเรื่อยๆ เป็นเวลานานแสนนานโดยอาศัยธรรมชาติที่แวดล้อมและดินฟ้าอากาศที่เลือกคัดหรือกำหนดให้ค่อยๆ ผันแปรเปลี่ยนแปลงไปหรือวิวํมนาการไปทละน้อยๆ

จนในที่สุดเมื่อพร้อมแล้วก็เข้ามาสู่วงกลม คือการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพภูมิต่างๆ อย่างถาวรโดยอาศัยอำนาจของกรรม จิต อุตุ และอาหาร

วงกลมที่สัตว์ทั้งหลายจำต้องหมุนเวียนเดินทางไกลนั้น ต้องหมุนเวียนไปไม่รู้จักจบสิ้นลงได้ คือหมุนเวียนตายเกิดไปตามวงกลมโดยเกิดเป็นสัตว์ประเภมต่างๆ การหมุนเวียนนั้นก็เหมือนโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ซึ่งไม่รู้จบนั่นเอง

เพราะชีวิตทั้งหลายมาจากอดีตที่แสนไกลแม้ภายในวงกลมที่หมุนเวียนอยู่รอบแล้วรอบอีกจนนับชาติไม่ได้ เพราะนับย้อนถอยหลังไปก็ไม่ทราบว่าเป็นรอบที่เท่าใด หาจุดตั้งต้นไม่ได้ แล้วต่อไปในชาติข้างหน้าและข้างหน้าต่อๆ ไปก็ไม่อาจจะทราบได้ว่าจะเป็นจำนวนชาติที่ต้องเกิดอีกจำนวนเท่าใด ไม่ทราบว่าจะนับชาติที่จะเกิดต่อไปไหวหรือไม่

เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วทุกๆชีวิตก็มีปัญหามากมายเหลือเกิน ต้องได้รับความทุกข์ยากลำบากแสนสาหัส และจะต้องแก้ปัญหาให้แก่ชีวิตไม่รู้จักจบสิ้นลงได้ทุกๆ ชาติที่เกิดขึ้นมาไปจนกว่าจะตาย

แล้วก็เกิดขึ้นมาใหม่แก้ปัญหากันทั่วๆ ไป เพราะด้วยเหตุที่มีตัวการมารร้ายผู้ยิ่งหใญ่ และร้ายอย่างสุดแสนที่จะพรรณนาได้ ติดตามมาเหมือนเงาซึ่งได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ ที่แอบแฝงฝังลึกอยู่ภายในจิตใจ อันแอบแฝงฝังอยู่อย่างลึกซึ้งมองเห็นตัวมันไม่ได้ มันเป็นตัวการที่ทำให้ชีวิตต้องเกิดใหม่ แล้วทำให้การเกิดใหม่ต่อกันเรื่อยๆ ให้เป็นไปอย่างถาวร

โดย คณะศิษย์มูลนิธิ [14 มี.ค. 2557 , 17:14:52 น.] ( IP = 125.27.168.56 : : )


  สลักธรรม 2




ชีวิตได้ตกเป็นข้าช่วงใช้เสมือนทาสในเรือนเบี้ยของสิ่งที่แอบแฝงฝังลึกอยู่นี้มาจนนับชาติที่เกิดไม่ได้ ชีวิตถูกมันชี้นิ้วบงการให้ทำตามมันมานานแสนนาน แล้วก็ยังไม่เคยมีใครชี้นิ้วย้อนกลับไปตวาดชี้หน้าของมันได้ ทั้งนี้เพราะความโง่เขลาเบาปัญญาในปัญหาของชีวิตจิตใจ

ถ้าการเกิดขึ้นมาเพียงในชาตินี้ชาติเดียว เราทั้งหลายก็ไม่จำเป็นจะต้องวุ่นวายในปัญหาของชีวิตจิตใจจนเกินไป เพราะในเวลาไม่ช้าเราก็จะพากันตาย แม้จะทุกข์ยากลำบากสักแค่ไหนก็ทนเอาไม่กี่ปีหรือไม่กี่สิบปีเท่านั้น ความทุกข์ทั้งหลายก็จะยึดครองต่อไปไม่ได้ มันก็จะสูญสลายตามความตายของเราไป

แต่มีใครที่ไหนบ้างเล่าที่มีเหตุผล มีข้อเท็จจริงยืนยันได้ว่า เมื่อชีวิตได้สิ้นสุดลงไปแล้วจะไม่มีการเกิดใหม่อีกต่อไป เราจะเชื่อเขาได้อย่างไรเล่า ในเมื่อคำว่าชีวิตคืออะไร มาจากไหน เกิดเป็นชีวิตขึ้นมาได้อย่างไร ก็อธิบายไม่ได้ แม้คำว่าจิตใจก็หาทราบไม่ว่าเกิดขึ้นมาได้ด้วยอาศัยเหตุอะไรบ้าง

เรารักชีวิตของเราอย่างสุดแสน อตส่าห์ประคับประคองประคบประหงมมันสารพัดอย่าง ดิ้นรนแสวงหาความสุขให้มันอยู่ตลอดเวลาสารพัดทาง แต่ก็บังคับอะไรมันไม่ได้เลย เพราะมันจะต้องเติบโต มันจะต้องเจ็บป่วย และมันจะต้องแก่เฒ่า แล้วก็ล้มตายลงไปแล้วก็ไปเกิดใหม่ให้ปัญหาต่อไปๆ ไม่รู้จบ

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้แสดงว่า การเกิดนั้นเป็นทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร เพราะชีวิตทั้งหลายอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ ต้องผันแปร เปลี่ยนแปลงไปอยู่ทุกๆ วินาที เป็นอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา

แม้อารมณ์ต่างๆ ที่มากระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่ว่าดีแสนดีแล้วมีความสุขอย่างไรมันก็ทนอยู่ไม่ได้ จะต้องเกิด-ดับสืบต่อกันไป มิได้หยุดนิ่งดังนี้แล้ว จะหาความสุขที่แม้จริงให้กับชีวิตอันไม่เที่ยงนี้ได้อย่างไร ชีวิตเมื่อขาดปัญญาก็เป็นตกเป็นทาสของตัณหาที่หลงละเมอเพ้อฝันว่าจะหาความสุขให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

จึงขอเชิญท่านผู้มีปัญญาทั้งหลายได้โปรดพิจารณาด้วยดี เพราะประมาทอะไรก็ไม่ร้ายเท่ากับประมาทในเรื่องของชีวิตจิตใจ (ขอเชิญอ่านเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนา)

โดย คณะศิษย์มูลนิธิ [14 มี.ค. 2557 , 17:15:14 น.] ( IP = 125.27.168.56 : : )


  สลักธรรม 3

อรุณแรกแห่งวันที่สิบห้า
ได้นำพาศิษย์พร้อมทำกุศล
ถวายทานใส่บาตรด้วยกมล
กราบถวายปวงกุศลท่านอาจารย์

โดย วิชิต ธรรมรังษี [15 มี.ค. 2557 , 08:43:18 น.] ( IP = 58.9.161.178 : : )


  สลักธรรม 4


กราบแทบเท้าระลึกถึงพระคุณ
ท่านพระอาจารย์บุญมี เมธางกูร ด้วยความเคารพยิ่ง

โดย วยุรี สุวรรณอินทร์ [17 มี.ค. 2557 , 09:30:57 น.] ( IP = 171.97.19.189 : : )

ขอเชิญแสดงความคิดเห็น
จาก : *
Code :
กรุณากรอก Code ตัวเลขด้านบน *
อีเมล์ : หากไม่ต้องการให้เว้นว่าง
รูปภาพ : ไม่เกิน 150KB
รายละเอียด :
Icon Toy
Special command

* *
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว.... 

คำเตือน
  • การแอบอ้างใช้ชื่อบุคคลซึ่งอาจทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
  • การโพสรูปภาพที่ไม่เหมาะสม หรือ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
  • หากพบเห็นรูปภาพหรือกระทู้ที่ไม่เหมาะสมสามารถเมล์เข้ามาได้ที่ freewebboard@thaimisc.com โดยระบุ subject "กระทู้ไม่เหมาะสม" พร้อมทั้งระบุ ADDRESS ของเว็บบอร์ด

ผู้ช่วยเหลือ-แหล่งข้อมูล

[ คีตธรรม ] [ ตารางสี ] [ ค้นหาเพลง ]

ลานภาพ

อบรมวิปัสสนา

ค้นหา

ค้นหา-GooGle

สร้างสรรค์โดย a2.gif (164 bytes) http://www.abhidhamonline.org