Moonlanithi |
Vipassana Meditation |
OnlineStudy thai english |
Article |
สำนักวิปัสสนา อ้อมน้อย |
กิจกรรม | About Us |
อายุวัฒนามีนามาส (๖)
สลักธรรม 1
ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทุกคนควรเรียนรู้และศึกษา ตลอดจนปฏิบัติในธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหนทางในการดำเนินชีวิตให้เป็นชีวิตที่ประเสริฐ ไม่ควรปล่อยชีวิตให้ไม่เป็นสาระ ด้วยการแสวงหาความสุขในอารมณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพราะเราจะต้องพลัดพรากจากสิ่งเหล่านั้นอยู่เสมอ จะต้องพบกับความผิดหวังอยู่เสมอ ควรจะต้องทำใจให้ได้เมื่อความสุขเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงไป ก็เพียงเพราะบางคน บางสิ่งเท่านั้นที่ผูกพันอยู่กับเรา เพราะสิ่งนั้นให้ความสุขแก่เราก็เพียงบางเวลาเท่านั้น แล้วก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นความทุกข์ได้ แม้แต่ทรัพย์สมบัติต่างๆก็ล้วนมีมาก่อนที่เราจะเกิดขึ้นมาเสียอีก เป็นสมบัติของโลกต้องสูญสิ้นวิบัติไปตามกาลเวลาเป็นของธรรมดา เราจึงจะต้องทำใจต้อนรับกับความเปลี่ยนแปลงของสิ่งเหล่านั้นให้ได้ ต้องต่อสู้กับโลกภายนอกและภายในตัวเราให้ได้ด้วยความรู้จริง หรือจะเรียกว่าปลงสู้ ไม่ใช่ปลงหนี สู้อย่างฉลาดรู้ฉลาดคิด
การต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ การเอาชนะใจตนเองล้วนเป็นงานทางใจ ที่สำคัญยิ่งของทุกๆชีวิต ที่แต่ละคนนั้น จะต้องหาความรู้และสร้างความสามารถให้มีมากในตนเอง เพื่อจะได้พาชีวิตของตนเองไปบนเส้นทางที่ถูกที่ควร และในที่สุดก็สามารถเป็นอิสระจากเครื่องร้อยรัดพันธนาการได้ นี่คืองานที่ดีของชีวิต
การทำใจให้แยบคาย คือทำใจให้เกิดกุศล เกิดความสบายปลอดโปร่ง พ้นจากความเศร้าหมองเร่าร้อนของจิตเป็นสิ่งสำคัญมากของชีวิต ซึ่งแต่ละคนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องจิตใจ ที่รับอารมณ์อยู่เสมออย่างไม่ขาดสาย อารมณ์ภายนอกที่ผ่านเข้ามาทาง ตา หู จมูก ลิ้นและกาย ลงสู่จิตใจนั้น มีอยู่เพียงสองอย่างเท่านั้น คืออารมณ์ดี น่าพอใจ กับอารมณ์ไม่ดี ไม่น่าพอใจ ทั้งอารมณ์ดีและไม่ดีนั้นๆ ย่อมมีอยู่เพียงชั่วคราวและก็พลัดพรากจากเราไป และทั้งสองอารมณ์ ก็เกิดจากปัจจัยของ บางสิ่ง และบางคนเท่านั้น อย่าให้ชีวิตเราต้องตกอยู่ภายใต้สิ่งบางสิ่ง และคนบางคนกันต่อไปเลย เพราะจะทำให้เกิดความทุกข์ใจ หมดแรงใจ หมดชีวิตชีวาลง เกิดความสับสน คับแค้น ขมขื่น จนบางครั้งเกิดความสิ้นหวัง เพราะเหตุว่าทำงานทางใจไม่เป็น และไม่มีใจที่แยบคายในการรับอารมณ์ ความทุกข์ใจจึงเกิดขึ้นเสมอๆไม่มีวันหมดได้นั่นเอง
พุทธ แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ภควา แปลว่า ผู้มีโชค ภวคาเป็นผลที่ได้จากผู้รู้คือมีปัญญา ผู้ตื่นจากทุกข์ จากเครื่องเศร้าหมอง เบิกบานอยู่ในความปีติ และแจ่มใส การที่เราสามารถกระทำให้ชีวิตเป็นผู้รู้ถูก ตัดสินถูกละคลายจากความคิดผิดเห็นผิดได้ กลับกลายเป็นผู้มีชีวิตชีวาสุขสดชื่นได้นั้น เป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้ ในตลาดหรือร้านค้าทั้งโลกใบนี้ แลกไม่ได้ด้วยทรัพย์สินเงินทองเลย จึงชื่อว่าเป็นผู้มีโชค ด้วยเหตุนี้เอง การกระทำใจให้แยบคาย รู้เหตุรู้ผลของชีวิต ด้วยการมีสติและปัญญาเท่านั้นจึงจะสามารถพัฒนาชีวิตตนให้มีคุณค่ายิ่งขึ้นไปเรื่อยๆได้ มีอริยทรัพย์ภายในเป็นที่พึ่งแท้แก่ชีวิต ซึ่งแต่ละคนจะต้องสร้างความรู้ความสามารถนั้นขึ้นมาด้วยตนเองเท่านั้น
การเจริญสติสัมปชัญญะให้เกิดขึ้นเสมอๆ จากที่ได้มีการศึกษาความจริงในเรื่องชีวิตถูกดีแล้ว จะต้องนำความรู้นั้นมาฝึกฝนให้เกิดผลขึ้นให้ได้ (ปฏิเวธ) สามารถดูกายที่เคลื่อนไหว จิตใจที่มีความคิด และความรู้สึก (เวทนา) ดีไม่ดี สบายใจ หรือทุกข์ใจหรือสุขใจ หรือเฉยๆก็สามารถรู้ได้ทัน และหยุดความคิด ความรู้สึกเศร้าหมองลงได้ด้วยสติสัมปชัญญะ ที่ได้สร้างขึ้น เจริญขึ้น จากการศึกษาและปฏิบัติที่ถูกต้อง
โดย ศาลาธรรม [10 มี.ค. 2559 , 11:32:31 น.] ( IP = 1.4.219.7 : : )
สลักธรรม 2
การใช้ธรรมที่ถูกต้องตามกาลเทศะ ทั้งส่วนตัว และส่วนรวมด้วยการทำงานทางกาย วาจา และทางใจให้ดีเป็นสุจริตสามอยู่เสมอๆ จิตใจย่อมแช่มชื่นเบิกบาน นี่เป็นความวิเศษสุดของพระพุทธศาสนา ที่สามารถทำให้มีชีวิตที่เลือกได้ ด้วยการกระทำของเราเอง
เราจะดีก็ไม่ใช่เพราะคำสรรเสริญเยินยอของคนอื่น หรือเราจะเลวก็ไม่ใช่เพราะเขาเกลียดเรา หรือนินทาว่าร้ายเราเลย ความคิดความรู้สึก ตลอดจนกาย วาจา ของเราที่เคลื่อนไหวไปในกาลเวลา จะบ่งบอกเราเองว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ดีหรือเลว แล้วเราก็จะรู้ได้เอง เตือนตนได้ด้วยตนเองเสมอ ในขณะที่เราทำไม่ดีออกไป และในที่สุดเมื่อสติสัมปชัญญะของเรา ถูกการฝึกฝนบ่อยๆจนเจริญไพบูลย์แล้ว ชีวิตของเรานั้นจะอยู่เหนือโลกแห่งความทุกข์ทั้งหมดทั้งมวลได้
หนึ่งปีที่ผ่านมาก็ได้เตรียมของขวัญที่ดีที่สุดและมีค่าที่สุดที่จะให้ตนเองไว้แล้ว นั่นก็คือ "ความมีสติ" แล้วพวกท่านล่ะคะ เตรียมของขวัญให้ตนเองกันหรือยัง? ที่ท่านคิดว่าจะเป็นของขวัญที่ล้ำค่าเมื่อตนเองได้รับแล้วชีวิตจะอุดมไปด้วยคุณค่า
คนเราส่วนมากมักจะหาว่า ค่าของคนอยู่ที่ไหน? บางคนก็บอกว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน คือการกระทำต่างๆ แต่สำหรับตนเองนั้น ค่าของคนอยู่ที่การกระทำคุณค่าของชีวิตให้เกิดขึ้น และคุณค่าของชีวิตนั้นก็คือ คุณงามความดีโดยมีสติและสัมปชัญญะเป็นหัวใจ เพราะสติและสัมปชัญญะนั้นจะคุ้มครองและป้องกันภัยให้เราได้
ด้วยกุศลที่กระทำมาพร้อมกับร่างกายที่ได้ใช้ชีวิตมาถึงจนถึงเวลานี้ ขอจงรวมมาเป็นตบะ เดชะ พลวะ และปัจจัย ห่อรวมกุศลเหล่านั้นมอบเป็นของขวัญให้กับทุกท่านนะคะ
โดย ศาลาธรรม [10 มี.ค. 2559 , 11:32:57 น.] ( IP = 1.4.219.7 : : )
ขอเชิญแสดงความคิดเห็น คำเตือน
- การแอบอ้างใช้ชื่อบุคคลซึ่งอาจทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
- การโพสรูปภาพที่ไม่เหมาะสม หรือ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
- หากพบเห็นรูปภาพหรือกระทู้ที่ไม่เหมาะสมสามารถเมล์เข้ามาได้ที่ freewebboard@thaimisc.com โดยระบุ subject "กระทู้ไม่เหมาะสม" พร้อมทั้งระบุ ADDRESS ของเว็บบอร์ด
ผู้ช่วยเหลือ-แหล่งข้อมูล |
[ คีตธรรม ] [ ตารางสี ] [ ค้นหาเพลง ] |
ลานภาพ |
ค้นหา |
สร้างสรรค์โดย http://www.abhidhamonline.org |