มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ

Moonlanithi Vipassana
Meditation
OnlineStudy
thai    english
Article สำนักวิปัสสนา
อ้อมน้อย
กิจกรรม About Us

[ Home ] [ ลานถาม-ตอบปัญหาธรรมะ ] [ ลานกวีธรรม ] [ ลานคิด เล่า เขียน ] [ ลานกลิ่นดอกแก้ว ] [ ค้นหากระทู้ ] [ สมัครสมาชิก ] [ login เข้าระบบ ]


ธรรมห้องเสือพิทักษ์ (วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๖)





สรุปธรรมะจากห้องเสือพิทักษ์วันเสาร์ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๖
วันนี้หลวงพ่อสอนธรรมแนวพระอภิธรรมประยุกต์ ซึ่งนำไปใช้ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
และมีเมตตาสอนในลักษณะ ถาม-ตอบ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ


ถาม การศึกษา และเข้าถึงพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ต้องทำบุญอะไร และทำอย่างไร?
ตอบ ๑. ต้องทำบุญที่ประกอบไปด้วยปัญญา ให้มีปัญญาทำ เช่นการศึกษาเล่าเรียน ขวนขวายในกิจการงานที่ชอบ
และ ๒. ต้องศึกษาให้รู้จักขันธ์ ๕
เพราะไม่รู้จักขันธ์ ๕ ก็ไม่สามารถกำหนดสติปัฏฐาน ซึ่งมีกาย เวทนา จิต และ ธรรม ได้


ถาม ไม่รู้จักขันธ์ ๕ ไม่ได้หรือ ?
ตอบ ไม่ได้ เพราะขันธ์ ๕ มีทั้งหญิงและชาย

ถาม ขันธ์ ๕ มีอะไรบ้าง? มาจากธรรมอะไรบ้าง?
ตอบ ขันธ์ ๕ มี รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
ได้มาจาก อดีตเหตุ จึงมีปัจจุบันผล
เมื่อทราบอย่างนี้แล้วจึงจะเรียกว่าเข้าถึงเนื้อแท้ของพระพุทธศาสนา


ถาม พระพุทธเจ้าทรงให้กำหนดรู้ขันธ์ ๕ เพราะเหตุใด?
ตอบ เพราะถ้าไม่รู้ขันธ์ ๕ ก็ไม่ได้ หรือรู้โดยสัญญาก็ไม่ได้ ถ้าจะไม่เรียนถึงความจริงของขันธ์ ๕ ก็ไม่ได้
ที่เราเรียน เราจำเอามาไว้ ไม่ได้ผ่านการปฏิบัติให้รู้ขันธ์ ๕ โดยประจักษ์สิทธิแล้ว ก็ไม่ควรพูดถึงเรื่องนิพพาน
พวกเรายังอยู่ไกลนิพพาน อย่างไม่มีขอบเขตกำหนด เพราะฉะนั้นพระพุทธองค์จึงสอนให้กำหนดรู้ขันธ์ ๕
พุทธประสงค์ เพื่อให้พุทธบริษัทเข้าไปเห็นความจริงของสภาวธรรม เมื่อผู้ปฏิบัติเข้าไปเห็นความจริงของสภาวธรรมแล้ว เขาผู้นั่นเองแหละที่เป็นผู้เดินเข้าไปใกล้สถานที่สิ้นทุกข์ ยิ่งปฏิบัติ ก็ยิ่งเดินใกล้เข้าไปๆ
และเป็นผู้มีขอบเขตจำกัดเมื่อได้เป็นพระโสดาบัน


โดย พี่ดา ...นำเสนอ [5 ก.ค. 2546 , 22:46:12 น.] ( IP = 203.107.202.232 : : ) เก็บกระทู้นี้ไว้ใน Bookmarkส่งกระทู้นี้ให้เพื่อนของคุณ
[ 1 ] [ 2 ][ 3 ][ 4 ]


  สลักธรรม 1

ถาม พระพุทธองค์ทรงสอนให้กำหนดรู้ขันธ์ อย่างไร?
ตอบ ให้กำหนดรู้เมื่อเวลาเห็น เวลาได้ยิน เวลาได้กลิ่น เวลารู้รส และเวลานึกคิดต่างๆ
เช่น เวลาได้ยินก็ใช้สติกำหนดรู้ว่าได้ยิน ใช้สติกำหนดรู้ ให้ระวังไม่ให้เลยไปถึงบัญญัติว่าเป็นเสียงหญิง เสียงชาย
เพราะนอกจากเป็นบัญญัติแล้วยังเป็นอดีตอารมณ์ที่ล่วงไปแล้วด้วย มีแต่เสียงกับผู้ได้ยินปรากฏอยู่ชั่วขณะเดียวเป็นปัจจุบันธรรม แล้วก็ดับลง เพราะฉะนั้นจึงควรกำหนดให้ถูกต้องกับอารมณ์ปัจจุบันเท่านั้น


ถาม ให้เรียนรู้เรื่องขันธ์ กำหนดขันธ์ แล้วลักษณะของขันธ์ ๕ อยู่ที่ไหน?
ตอบ ลักษณะของขันธ์ ๕ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) อยู่ที่เงื่อนดับ

ถาม ทำไมอยู่ที่เงื่อนดับ?
ตอบ เพราะ การเกิดขึ้นเป็นชาติ สังขาร ไม่มีความปรากฏว่า ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
แต่ตรงที่ดับของขันธ์นั่นแหละจึงจะปรากฏเป็น ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา


ถาม เมื่อผู้ปฏิบัติเข้าไปเห็นขันธ์ ๕ ว่าเป็นทุกข์แล้ว จะไปพระนิพพานได้อย่างไร?
ตอบ หลักธรรมดา เพราะเมื่อเห็นว่าสิ่งใด ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา แล้ว เราก็ไม่อยากได้สิ่งนั้น ก็เบื่อหน่ายในสิ่งนั้น คลายความกำหนัดในสิ่งนั้น มันก็ละตัณหา
แล้วเป็นต้นทางแห่งพระนิพพาน

โดย พี่ดา ...นำเสนอ [5 ก.ค. 2546 , 22:47:10 น.] ( IP = 203.107.202.232 : : )


  สลักธรรม 2

ถาม อวิชชาคืออะไร?
ตอบ อวิชชา คือความไม่รู้ จึงเป็นนิวรณ์

ถาม อวิชชาเป็นนิวรณ์อย่างไร?
ตอบ อวิชชามีอยู่ในก้นบึ้งของจิตใจตลอดเวลา
เช่นได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รู้รส เป็นต้น ที่ดี จัดเป็นกามราคะ
ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รู้รส เป็นต้น ที่ไม่ดี ก็ไม่พอใจ เป็นพยาปาทะ
พอฟังมากเข้า ดูมากๆเข้า ก็ง่วงเหงาหาวนอน ก็เกิด ถีนะมิทธะ
พอฟังไม่รู้ ก็วิจิกิจฉา
พอฟังอีก รู้มาก ก็อุทธัจจะ
ฉะนั้นนิวรณ์จึงเป็นอาหารของอวิชชา


ถาม สังขาร ๓ มีอะไรบ้าง
ตอบ สังขาร ๓ คือ

  • ปุญญาภิสังขาร สังขารคือ บุญ
  • อปุญญาภิสังขาร สังขาร คือ บาป
  • อเนฌาภิสังขาร สังขารคือ รูปฌาน อรูปฌาน

    ถาม ทั้ง ๓ สังขารนี้เป็นเมืองขึ้นของใคร?
    ตอบ เป็นเมืองขึ้นของอวิชชาเพราะ
    ความไม่รู้ว่าทำบุญให้ทานแล้วนำไปเกิด
    ความไม่รู้ว่าทำบาปแล้วนำไปเกิด
    ความไม่รู้ว่าทำรูปฌาน และอรูปฌานก็นำไปเกิด
    และไม่รู้ว่าเกิดเป็นทุกข์ก็สร้างเหตุเกิดก็สร้างเหตุเกิดอยู่เรื่อยไป
    การทำให้ภพชาติเกิดขึ้นนั่นแหละ เรียกว่า เมืองขึ้น

  • โดย พี่ดา ...นำเสนอ [5 ก.ค. 2546 , 22:48:01 น.] ( IP = 203.107.202.232 : : )


      สลักธรรม 3


    ถาม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะมีกุศลอะไรบ้างที่ไม่เป็นเมืองขึ้นของอวิชชา?
    ตอบ เมื่อผู้ใดทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้นได้ ย่อมปหาณอวิชชาคือความไม่รู้ทีละน้อยทีละน้อย
    เพราะฉะนั้น กุศลอย่างเดียวที่ไม่เป็นเมืองขึ้นของอวิชชาคือ วิปัสสนากรรมฐาน
    ส่วนกุศลอื่น ๆ เป็นเมืองขึ้นและเป็นทาสของอวิชชาทั้งสิ้น


    ถาม สักกายทิฏฐิ หมายความว่าอย่างไร?
    ตอบ หมายความว่ามีความเห็นผิดอยู่ในรูปในนามว่าเป็นคน เป็นสัตว์

    ถาม สักกายทิฏฐิพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้ทำอย่างไร?
    ตอบ สอนให้ละ เพราะเป็นปหาตพฺพธรรม (ธรรมประเภทให้ละ)

    ถาม สักกายทิฎฐิมีอยู่ที่ไหน? เกิดขึ้นที่ใด?
    ตอบ ขณะที่ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง ขณะเดิน ขณะยืน ขณะนั่ง ขณะนอน ขณะใจนึกถึงธัมมารมณ์

    ถาม ขณะที่ตาเห็นรูป ตรงไหนเป็นสักกายะ?
    ตอบ รูปารมณ์ที่ถูกเห็น เป็น รูปธรรม

    ลักษณะที่เห็น เป็น นามธรรม
    ฉะนั้น เห็นรูปครั้งหนี่งมีทั้งรูปทั้งนามเกิดขึ้น เรียกว่า สักกายะ
    แล้วเข้าใจว่าเราเป็นผู้เห็นเป็นมิจฉาทิฎฐิ เป็นความเห็นผิดในรูปในนามจึงเรียกว่า สักกายทิฏฐิ
    ทางทวารอื่นก็ทำนองเดียวกัน


    ถาม สักกายทิฏฐิมีความน่ากลัวเสียหายอย่างไร พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ละ ?
    ตอบ เสียหาย เพราะเป็นลิ่มสลักปิดประตูไว้ไม่ให้สัตว์ทั้งหลายเปิดประตูไปสู่เมืองนิพพานได้
    ด้วยเหตุนี้ พระโสดบันจึงละสักกายทิฏฐิเป็นเบื้องต้น ปิดประตูอบาย


    ถาม ทำอย่างไรจึงจะสามารถถอดลิ่มสลักออกได้ ?
    ตอบ มีทางเดียวที่จะถอดลิ่มสลักออกได้ด้วยการปฏิบัติสติปัฏฐานสี่

    โดย พี่ดา ...นำเสนอ [5 ก.ค. 2546 , 22:49:41 น.] ( IP = 203.107.202.232 : : )


      สลักธรรม 4


    ถาม เอาใครมาละทิฏฐิ แล้วละตอนไหน?
    ตอบ เอาสติมาละ ละตรงขณะตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นรู้รส
    แม้ทำบุญมากมายก็ไม่สามารถละหรือปหาณได้เพราะมีกำลังอ่อน


    ถาม เวลากิเลสเกิดขึ้น เกิดตรงไหน?
    ตอบ เกิดขณะขันธ์ปรากฏ กิเลสเป็นเจตสิกเกิดขึ้นพร้อมกับจิต

    ถาม เวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหาได้เท่าไร?
    ตอบ ได้ ๓ คือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อุเบกขาเวทนา

    ถาม สุขเวทนา เป็นปัจจัยให้เกิดตัณหาพอเข้าใจ
    แต่ทุกขเวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหาได้อย่างไร?

    ตอบ เพราะเมื่อสัตว์ได้รับความทุกข์บีบคั้นก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ตะเกียกตะกายออกไปาความสุข
    ตัวตะเกียกตะกายนี้แหละเป็นกามตัณหา (ที่เกิดจากทุกขเวทนาเป็นปัจจัย)


    ถาม แล้วทุกขเวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดภวตัณหาได้อย่างไร?
    ตอบ ขณะที่รู้ว่าความเป็นมนุษย์ไม่ดี มีความทุกข์ เช่น อดอยาก ยากจน เจ็บป่วย แล้วก็ตาย ไม่น่าปรารถนา
    จึงเป็นเหตุให้คิดว่าการเกิดเป็นพรหมแหละดี เพราะมีความสุขเที่ยงแท้ จึงมีความมุ่งหวังจะไปเกิดเป็นพรหม


    ถาม ทุกขเวทนาเป็นเหตุให้เกิดวิภวตัณหาอย่างไร?
    ตอบ เมื่อประสบกับความทุกข์ก็มีความเห็นผิดว่า การขาดสูญจากโลกทั้งปวงดี เช่น
    เวลามีทุกข์ก็คิดว่าไม่ชีวิตเลยดีกว่า โดยไม่รู้ว่าไม่มีมันทำอย่างไร


    โดย พี่ดา...นำเสนอ [5 ก.ค. 2546 , 22:54:31 น.] ( IP = 203.107.202.232 : : )


      สลักธรรม 5


    ถาม อุเบกขาเวทนาเป็นปัจจัยให้เกิดตัณหาได้อย่างไร
    ตอบ ขณะที่โยคีบุคคลทำฌานที่ ๕ มีจิตเป็นหนึ่ง แน่อยู่ เฉยอยู่ในรูปกรรมฐานบ้าง อรูปกรรมฐานบ้าง
    ก็มีจิตชอบอยู่ในความเฉยนั่นแหละ เรียกว่า รูปราคะ อรูปราคะ


    ถาม ตัณหาคือความทะยานอยาก เวลาเกิดอาศัยเกิดที่จักขุวิญญาณ คือ ลักษณะที่เห็นได้ไหม?
    ตอบ ไม่ได้ เพราะจักขุวิญญาณเป็นอเหตุกจิต
    แต่ตัณหาคือโลภะเป็นตัวเหตุโดยตรง
    ส่วนคำว่า "อาศัยตาเกิดนั้น" คืออยากที่จะเห็นรูปสวย ๆ
    อย่างนี้เรียกว่า ตัณหาอาศัยจักขุวิญญาณเกิด
    ไม่ใช่ตัณหาไปเกิดร่วมกับจักขุวิญญาณ

    (จักขุวิญญาณมี ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา เอกัคคตา ชีวิตินทรีย์ มนสิการ เกิดร่วมด้วย)

    ถาม ตัณหาที่เกิดโดยปราศจากทิฏฐิและมานะมีไหม?
    ตอบ มี เช่น บางคนมีความอยากได้ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่ดี ๆ เป็นต้น
    อยากได้โดยไม่สัมปยุตด้วยความเห็นผิด หรือไม่มีมานะ ถือตัวว่าตนได้อะไร
    เรียกว่าเกิดแต่ โลภะล้วน ๆ โดยปราศจากทิฏฐิและมานะ


    โดย พี่ดา...นำเสนอ [5 ก.ค. 2546 , 22:59:39 น.] ( IP = 203.107.202.232 : : )


      สลักธรรม 6


    ถาม ตัณหาที่เกิดจากทิฏฐิเป็นอย่างไร? และตัณหาที่เกิดจากมานะเป็นอย่างไร?
    ตอบ เวลาเห็นรูปก็เห็นว่ารูปเป็นตัวตน เรียกว่า โลภะเกิดร่วมกับทิฏฐิ
    เป็นคนถือตัว ว่าเกิดในตระกูลสูงไม่ยอมให้คนอื่นที่มีตระกูลต่ำกว่ามาร่วมด้วย เรียกว่า โลภะเกิดร่วมกับมานะ

    ถาม วิภวตัณหาที่เป็นไปในอารมณ์ ๖ เป็นอย่างไร
    ตอบ คือชอบในความเห็นว่าอารมณ์ ๖ ที่มาปรากฏ เกิดขึ้นมาเฉย ๆ โดยปราศจากเหตุปัจจัย
    เช่น เวลาได้ยินเสียงแล้วชอบก็ตัดสินว่าดี เข้าใจว่าอารมณ์คือเสียงนี้ ไม่มีเหตุปัจจัยอะไรเลย
    เสียงที่มากระทบมันเกิดขึ้นมาเฉย ๆ ไม่มีปัจจัยอะไรเลย และก็หมดไปเฉย ๆ
    เป็นการปฏิเสธเหตุ อย่างนี้ชื่อว่า วิภวตัณหา เพราะขัดต่อหลักคำสอนที่ว่า
    "ธรรมทั้งหลายต้องมีเหตุเป็นแดนเกิด" เมื่อหมดเหตุแล้ว เหตุนั้นดับไปแล้ว ผลจึงดับ


    สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสมาฟังหลวงพ่อได้ด้วยตนเองค่ะ
    ด้วยความปรารถนาดี
    พี่ดา และฟู

    โดย พี่ดา...นำเสนอ [5 ก.ค. 2546 , 23:00:52 น.] ( IP = 203.107.202.232 : : )


      สลักธรรม 7

    โอ้โห...ๆๆๆอนุโมทนาครับ
    ไม่แปลกใจเลยที่พี่ดาสอบได้คะแนนนำลิ่ว
    เพราะความจำเจ๋งจริงๆเย้ย…


    ขอชื่นชมน้ำใจงามของพี่ดาแทนทุกๆคนด้วยครับผม…

    พี่ๆน้องๆที่เคารพรัก
    พี่ดาคนนี้แหละเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
    ก็เอาเงินบำนาญทั้งหมดหมื่นกว่าๆ
    ออกมาทำบุญตั้งทุน
    ไว้ใช้จ่ายในการอบรมวิปัสสนาที่จะมีขึ้นตามโครงการหลักสูตรเร่งรัดนี้ละครับ

    โดยไม่เหลือไว้สักกะหลึงเลย
    ใจดี ใจบุญแต้ๆเด้อ…


    สาธุ สาธุ สาธุ…

    โดย พี่เณรครับ [6 ก.ค. 2546 , 06:04:15 น.] ( IP = 203.107.202.143 : : )


      สลักธรรม 8



    อนุโมทนากับน้องฟูด้วยนะครับ เห็นไหมผู้มาร่วมอนุโมทนาเต็มไปหมดเลย
    เพราะพี่เณรแท้ๆเขียนจากใจ
    พอจะส่งทั้งพระและฆารวาส
    พี่ๆน้องๆมาซ้ำๆๆๆกันเลยเพื่อสาธุๆๆ กับพี่ดาและน้องฟู ..อิอิอิ…

    โดย พี่เณร [6 ก.ค. 2546 , 06:10:08 น.] ( IP = 203.107.202.143 : : )


      สลักธรรม 9

    >
    สาธุ...สาธุ...สาธุ...
    อนุโมทนาค่ะพี่ดาและน้องฟู
    ขอบพระคุณมากค่ะ ...ดีจังๆๆๆ

    โดย น้องกิ๊ฟ [6 ก.ค. 2546 , 09:35:50 น.] ( IP = 203.107.212.40 : : )


      สลักธรรม 10



    ขอบใจ๋กั๊บ
    ที่นำธรรมะมาให้อ่านดี๋ดีจริงๆเลยกั๊บ… …

    โดย ฮิเดชิ [6 ก.ค. 2546 , 20:34:35 น.] ( IP = 203.107.205.73 : : )
    [ 1 ] [ 2 ][ 3 ][ 4 ]

    ขอเชิญแสดงความคิดเห็น
    จาก : *
    Code :
    กรุณากรอก Code ตัวเลขด้านบน *
    อีเมล์ : หากไม่ต้องการให้เว้นว่าง
    รูปภาพ : ไม่เกิน 150KB
    รายละเอียด :
    Icon Toy
    Special command

    * *
    กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว.... 

    คำเตือน
    • การแอบอ้างใช้ชื่อบุคคลซึ่งอาจทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
    • การโพสรูปภาพที่ไม่เหมาะสม หรือ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
    • หากพบเห็นรูปภาพหรือกระทู้ที่ไม่เหมาะสมสามารถเมล์เข้ามาได้ที่ freewebboard@thaimisc.com โดยระบุ subject "กระทู้ไม่เหมาะสม" พร้อมทั้งระบุ ADDRESS ของเว็บบอร์ด

    ผู้ช่วยเหลือ-แหล่งข้อมูล

    [ คีตธรรม ] [ ตารางสี ] [ ค้นหาเพลง ]

    ลานภาพ

    อบรมวิปัสสนา

    ค้นหา

    ค้นหา-GooGle

    สร้างสรรค์โดย a2.gif (164 bytes) http://www.abhidhamonline.org