มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ

Thai

keetadham
คีตธรรม
Moonlanithi

OnlineStudy
thai    english

Webboard
กระทู้ธรรม
what news About Us Chat GuestBook
สมุดเยี่ยม
Article

ลานคิด-เล่า-เขียน
[ ลานถาม-ตอบปัญหาธรรมะ ] [ ลานกวีธรรม ] [ ลานคิด เล่า เขียน ]


ดอกแก้ว






ดอกแก้ว

ดอกแก้ว...บุษกร (๓)

กาลเวลาที่ผ่านไปนอกจากจะทำให้สภาพร่างกายมีความเปลี่ยนแปลงที่ปรากฏชัดแล้ว วิถีชีวิตและระบบความคิดของมนุษย์ในสังคมก็มีความเปลี่ยนแปลงควบคู่กันไปด้วย บุคคลที่ต่างยุคสมัยถูกเชื่อมร้อยกันไว้ด้วยความผูกพันในเครือญาติ มิตรสหาย และการประกอบอาชีพ

ในหมู่กลุ่มที่มีสมาชิกคละเคล้ากันไปในหลายเพศหลายวัย ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่จะไม่เนียนสนิทในความสัมพันธ์จนเกิดเป็นช่องว่าง ความแตกต่างระหว่างอายุนั้นยังไม่สร้างปัญหาเท่าความแตกต่างในความคิด สิ่งที่ดีงามในยุคสมัยหนึ่งกลับกลายเป็นสิ่งล้าหลังในห้วงเวลาต่อมา สิ่งที่ที่ไม่ควรยอมรับกลับกลายเป็นความยอมรับได้ในอีกสมัยหนึ่ง

อาจารย์บุษกรในฐานะของครูผู้ให้ความรู้ทางธรรม ..ท่านไม่ได้ย่ำเท้าอยู่กับที่ด้วยการอธิบายไขข้อข้องใจหรือให้ข้อคิดเพียงคำสั้นๆ แต่ท่านได้รังสรรค์งานธรรมะในแนวทางใหม่ที่ให้ทั้งความรู้ในบทธรรมและความรื่นรมย์ใจในศิลปะทางภาษาและดนตรี

สิ่งที่สัมผัสได้จากการเปลี่ยนแปลงในคราวแรกนั้นก็คือ ท่านได้ให้ข้อคิดแก่ลูกศิษย์ด้วยการสรุปเหตุผลออกมาเป็นภาษาที่กระชับเข้าใจง่าย และอธิบายสาระสำคัญอย่างตรงไปตรงมาจนจบกระบวนความ แล้วก็ปิดท้ายด้วย "การร้องเพลง" ให้ลูกศิษย์ฟัง ...ซึ่งเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจมาก เพราะท่านสามารถสลายบรรยากาศที่เคร่งเครียดในการขับเคี่ยวทางความคิดให้กลายเป็นความละมุนละไมด้วยบทเพลงที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์

ในโอกาสต่อๆ มาพวกเราก็ได้พบกับรูปแบบของ "การอธิบายธรรมะประกอบเพลง" โดยท่านจะนำเพลงที่มีเนื้อหาทั้งดีและไม่ดีในทางโลกมาแจกแจงแยกแยะให้เห็นความบกพร่องของตัวเองจากบทเพลงนั้นๆ ทำให้พวกเรารู้จักวิธีการที่ดีในการฟังเพลง คือจะฟังอย่างไรให้สร้างสรรค์ ไม่ลุ่มหลงไปกับท่วงทำนองหรือเนื้อหา ทั้งยังสามารถค้นหาข้อคิดจากเพลงนั้นๆ มาสอนใจตนเองได้

และเมื่อวิทยาการทางโลกด้านการสื่อสารมีความก้าวมากขึ้น ระบบอินเตอร์เน็ตเข้ามามีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนทั้งหลาย ท่านก็ได้เพิ่มช่องทางในการสื่อสารเพื่อเผยแผ่พระอภิธรรมไปยังผู้สนใจที่อยู่ตามถิ่นต่างๆ ด้วยการเขียนข้อคิดและบทกวีลงในลานธรรมของมูลนิธิ รวมทั้งเว็บไซด์ต่างๆ ที่เหมาะสมแก่การทำงาน ในนามของ "ดอกแก้ว" และ "พี่ดอกแก้ว" และจวบจนปัจจุบันนี้ท่านก็ยังเป็นดำเนินงานในด้านนี้อยู่ด้วยความเมตตาในเพื่อนร่วมทุกข์

โดย คณะศิษย์ [8 มี.ค. 2554 , 13:21:13 น.] ( IP = 125.27.181.87 : : ) เก็บกระทู้นี้ไว้ใน Bookmarkส่งกระทู้นี้ให้เพื่อนของคุณแจ้งลบกระทู้


ข้อความ 1


"เสียงกระชิบข้างหัวใจ" และบทกวีของพี่ดอกแก้ว ...เป็นกลวิธีที่นำศิลปะทางภาษาไทยเข้ามาผสมผสานภาษาธรรมให้มีความงดงามและสูงค่า ที่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจได้ในทุกเพศทุกวัยที่แม้จะต่างประสบการณ์กันแต่ก็สามารถทำความเข้าใจได้จากมุมมองของแต่ละคนได้อย่างไม่ขัดแย้ง

ในฐานะของพี่ดอกแก้ว....ท่านได้กล่าวเกริ่นเบื้องต้นไว้ใน "เสียงกระซิบข้างหัวใจว่า"



"เราอาจจะไร้ค่าสำหรับคนๆหนึ่ง แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องไร้ค่าต่อใครอีกหลายๆคน


มีคนมากมายเกิดมาแล้วไม่เคยที่จะรักตัวเองเลย ทำลายตนเองด้วยความคิดว่าตนเองต้อยต่ำสู้คนอื่นๆไม่ได้บ้าง
หรือมักจะน้อยใจในความโชคร้ายของตน เมื่อไปคิดเปรียบเทียบกับคนอื่น

รักตนเองให้เป็น... ด้วยการสร้างชีวิตให้มีค่าขึ้นมา ด้วยความขยัน
รักตนเองให้ถูก... ด้วยการสืบหาความต้องการที่แท้จริงเสีย ว่าตนนั้นต้องการอะไรในชีวิตนี้

การรักตนเอง ทั้งรักถูกและรักเป็น จะทำให้ความสุขใจมีเกิดขึ้นในชีวิต
และเพื่อจะอาศัยความสุขที่บังเกิดมีขึ้นนั้น สร้างคุณภาพต่างๆออกมาจนทำให้ตนเองรู้สึกว่า..เป็นชีวิตที่มีค่าให้ได้

ท้อแท้....... ก็แค่นั้น
ทุกวัน.....พลันดับหาย
สร้างสุข....จิตสบาย
อย่ามัวหน่าย....ชีวิตเลย

กำลังใจที่ถูกสร้างขึ้นมาของเราเองนั่นแหละ
จะมาเป็น..เสียงกระซิบข้างหัวใจ..
ให้เราอยู่ได้อย่างสบายใจ ท่ามกลางคนที่มีแต่ทัศนะคติที่เลวร้ายได้เสมอ.

ดอกแก้วค่ะ



โดย คณะศิษย์ [8 มี.ค. 2554 , 13:21:58 น.] ( IP = 125.27.181.87 : : )


ข้อความ 2

โดย คณะศิษย์ [8 มี.ค. 2554 , 13:24:00 น.] ( IP = 125.27.181.87 : : )


ข้อความ 3




เจริญพร โยมอาจารย์ บุษกร เมธางกูร

วันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๓ นี้ ก็ครบรอบวันเกิดของอาจารย์ ๕๔ ปี พอดี อาตมาเป็นลูกศิษย์ของมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ สิบกว่าปี ตั้งแต่วัดโพธิ์ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเสือ อาจารย์บุญมี อาจารย์วิชิต อาจารย์บุษกร ท่านทั้ง ๔ เป็นผู้สืบทอดธรรมะของพระพุทธองค์ได้อย่างดียิ่ง.

ปกติ มนุษย์จะดื้อ การสอนจึงเป็นงานที่ยาก สอนให้ทำดียิ่งยาก สอนจนเป็นคนดีได้ยากที่สุด แต่อาจารย์ทำได้ อาจารย์บุษกร จึงเป็นครูที่นั่งอยู่ในใจอาตมา

ขอให้บุญที่อาตมาทำแล้วจงสำเร็จแด่อาจารย์
นางสุปิยา หายป่วยด้วยคาถาบทเดียวของพระพุทธเจ้า

พระโมคคัลลานะ หายป่วยด้วยโพชฌงคปริต
พระพุทธองค์ พระกัสสปะ ก็เคยหายป่วยด้วยคาถาบทนี้

สัพพคาถาและปริตเหล่านั้น อาตมาสายธยายแล้วด้วยดี
ขออาจารย์บุษกร เมธางกูร จงหายป่วยแบบนั้นบ้างเถิด

พระวิเชาว์ บุญประเสริฐ



โดย คณะศิษย์ [8 มี.ค. 2554 , 13:24:29 น.] ( IP = 125.27.181.87 : : )


ข้อความ 4



สุขสันต์วันเกิด
แด่.....อาจารย์บุษกร เมธางกูร

คือดอกเข็มแหลมคมสมใจนัก
คือดอกรักบานสะพรั่งกลางเวหา
คือดอกบัวที่เบิกบานแห่งปัญญา
สามดอกมารวมกันเป็น “บุษกร”

มีวาจาสุภาษิตสนิทสนม
มีคำคมสมศักดิ์ศรีที่สั่งสอน
มีกิริยาอาการอันสุนทร
มีอาภรณ์ศีล สมาธิ และปัญญา

อีกมีเซ้นส์เห็นธรรมกรรมดีชั่ว
และเห็นตัวบุพกรรมเลิศล้ำค่า
ปริยัติ ปฏิบัติ วิปัสสนา
สมนามว่า “เมธางกูร” บุญทวี

ที่สิบสามมีนามาบรรจบ
คล้ายวันครบรอบวันเกิดประเสริฐศรี
อายุมั่นขวัญยืนชื่นฤดี
สุขชาตินี้ ชาติหน้า “บุษกร”

กฤษณาวดี
(ดร.พระมหาไพเราะ ฐิตสีโล)

โดย คณะศิษย์ [8 มี.ค. 2554 , 13:26:46 น.] ( IP = 125.27.181.87 : : )


ข้อความ 5



ชีวิตนี้ยังคงหลากหลายด้วยสรรพสิ่งมากมายที่น่าอัศจรรย์นัก และยังมีความจริงนานัปการที่จะต้องค้นหา แม้แต่มิตรภาพที่งดงาม..ที่ทุกคนต่างก็เพรียกหาความซื่อสัตย์และจริงใจ

สัจจะ ช่างมีมนต์ขลังยิ่งนักต่อจิตใจ

ทมะ ความข่มใจย่อมมีบทบาทสำคัญเสมอต่อสภาพแวดล้อม

ขันติ ช่วยให้บรรยากาศดูสงบและราบรื่นท่ามกลางพายุอารมณ์

จาคะ การแบ่งปันความมีต่างๆออกสู่มวลมนุษย์ชาติเพื่อรังสรรค์

เสียงกระซิบจากธรรมชาติอันแท้จริงเท่านั้น ที่จะเป็นมิตรไมตรีที่สัตย์ซื่อเสมอ ละอองความรักสามารถรวมตัวหนาทึบพร้อมที่จะตกลงมา ประดุจดังสายฝน..ที่สาดกระซิบข้างหัวใจคุณ.

ดอกแก้วค่ะ

โดย คณะศิษย์ [8 มี.ค. 2554 , 13:27:17 น.] ( IP = 125.27.181.87 : : )


ข้อความ 6



วันเวลาได้ล่วงผ่านไปตามสามัญ ต่างคนต่างสามารถที่จะอยู่อย่างที่เขาอยากอยู่ ต่างก็มีสิ่งเกี่ยวข้องพึ่งพากัน ฉาบฉวยบ้างและต่อเนื่องกันไปอย่างไม่มีจุดจบ

ชีวิตแห่งความสับสนวุ่นวาย ท่ามกลางถนนหลากสาย ต่างล้วนปะทะระลอกกรรมกระหน่ำชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยความอดทนกัดฟันสู้ เพื่อความอยู่ได้ไปวันๆ ก่อนม่านดำแห่งค่ำคืนจะคลี่ห่มให้ตกจมลงสู่ภวังค์

หลายชีวิตไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่าเขายังมีลมหายใจมาถึงตรงนี้ได้..เพราะอะไร หลายชีวิตไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่า... แพรทองผ่องพลิ้วสะพรั่งผืนด้วยดวงสุรีย์ฉายในวันใหม่ที่จะมีมานั้น...เขาจะมีโอกาสได้ยลกับแพรทองผืนนั้นไหม

มากมายหลายชีวิตได้ถูกอำนาจกรรมตัดขาดจากการเห็นลงเสียแล้ว ช่างน่ากลัวยิ่งนัก กันสิ่งที่คาดหมายไม่ได้เลยเช่นนี้...ก็เพราะว่า ภาระหน้าที่รวมถึงพันธะที่แต่ละคนเพียรสร้างขึ้นมาและผูกมันไว้กับตนเอง เฉกเช่น..สายสร้อยคล้องคอบ้าง กำไรคอมือบ้าง แม้กระทั่งกระพวนข้อเท้า สิ่งเหล่านี้ล้วนมีอาถรรพณ์อันมากเล่ห์ด้วยเสน่ห์แห่งมายาชีวิตนั่นเอง

ยังมีมุมแสงแห่งตะวันอยู่อีกด้าน ที่ยังสาดส่องแสงเพื่อขับไล่ความมืดและความอับเฉาแห่งชีวิตที่ยังทรงเปี่ยมด้วยพลังแห่งพุทธานุภาพที่พร้อมจะโต้ตอบและขับไล่ปัญหาต่างๆให้หมดไปได้

เพียงรักที่จักแจ้งอริยธรรม เพียงน้อมนำสู่จิตให้ประจักษ์ด้วยศรัทธา ก้าวสู่หนทางที่เต็มไปด้วยสาระประโยชน์ ก้าวออกจากความคลั่งไคล้และเพ้อเคลิ้ม มุ่งสู่จุดหมายปลายทางที่สงบแห่งสันติธรรม

อาจจะยากเย็นเข็ญใจในการที่จะล่วงรู้....ตามคำสอนแห่งศรีสัพพัญญูเจ้า แต่ขอให้มั่นใจเถิดว่า..

หนทางนี้เท่านั้นที่จะปลดเปลื้องเครื่องพันธนาการทั้งหลายให้หลุดออกได้
หนทางนี้เท่านั้นที่จะยุติชีวิตที่ต้องดิ้นรนไปกับความทุกข์นานัปการให้พินาศลงสิ้น
หนทางนี้เท่านั้นที่จะมอบบรมสุขให้เราได้ทุกๆคน
หนทางนี้ก็คือ หนทางแห่งมรรคอันมีองค์แปด ที่เหล่าอริยเจ้าทั้งหลายท่านเดินนำทางไว้แล้ว

เธอจะเดินผ่านไปในที่สุด
แม้สะดุดหกล้มต้องก้มหน้า
กี่หยาดเหงื่อรินรดหยดน้ำตา
มิหยุดเธอหรอกถ้าศรัทธามี

พี่ดอกแก้ว


โดย คณะศิษย์ [8 มี.ค. 2554 , 13:27:59 น.] ( IP = 125.27.181.87 : : )


ข้อความ 7



คนเราทุกคนต่างก็รู้จักกันหมดทุกคนว่า ความดี คืออะไร เพียงแต่ยังมีบางคนยังไม่เคยเริ่มต้นที่จะทำความดีนั้นด้วยใจภักดี ความดี จึงเป็นการประพฤติและปฏิบัติที่ดูยากเย็นเสียเหลือเกิน

การจะเป็นผู้ที่ภักดีต่อความดีได้นั้น ขออย่าได้รอใครมาชักชวนหรือรอหาเหตุผลเสียก่อน เพราะคนที่ไม่ยอมแพ้นั้น เขาจะไม่ฟังคำอธิบายใดๆรวมทั้งเหตุผลที่ยกมาอ้าง

จะมีแต่แรงผลักดัน.เกิดขึ้นจากการความตั้งใจจริงที่จะต้องเอาชนะความชั่วให้ได้ ..จะได้ไม่แพ้

การที่จะเป็นคนสมบูรณ์ในความดีได้ ต้องทำปัญญาให้แหลมคมเสียก่อน เพื่อจะรู้ได้ว่าชีวิตที่สมบรูณ์คืออะไร?

ความสุขที่คนต่างแสวงหาด้วยกันนั้น แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่? และคิดให้ถูกว่า ความร่ำรวยช่วยเติมเต็มให้ชีวิตได้ไหม ?

เมื่อความแหลมคมแห่งปัญญามีพร้อม เราก็จะรู้จักตนเองดียิ่ง ทำให้เป็นคนมีความเชื่อมั่นในตนเองโดยไม่ต้องรอแรงใจจากใครในการทำดี

แหละการกระทำความดีนั้น จึงเป็นการภักดีต่อความดีโดยแท้ แม้กระทั่งความปรารถนาที่มี ก็เสมือนความฝันที่สวยงาม โดยอาศัยความเชื่อมั่นในศรัทธา ก้าวเดินไปทุกย่างก้าวสู่ความฝันนั้น มั่นคงและจริงใจต่อเส้นทาง บรมสุขก็จะเป็นรางวัลของชีวิตคนดีที่สมบรูณ์แน่แท้

ภาคทฤษฎี ของคนดี คือภาคปฏิบัติ ของผู้ให้

พี่ดอกแก้ว



โดย คณะศิษย์ [8 มี.ค. 2554 , 13:30:52 น.] ( IP = 125.27.181.87 : : )


ข้อความ 8

000

โดย คณะศิษย์ [14 ธ.ค. 2555 , 10:44:45 น.] ( IP = 182.52.202.198 : : )

ขอเชิญแสดงความคิดเห็น
จาก : *
Code :
กรุณากรอก Code ตัวเลขด้านบน *
อีเมล์ : หากไม่ต้องการให้เว้นว่าง
Your Photo : ไม่เกิน 150KB
ยินดีให้รูปประกอบนี้ ไปให้บริการ ส่งรูปภาพเข้ามือถือ ยินดี ไม่ยินดี
บริการใหม่!! รับฝาก File ฟรี!
รายละเอียด :
Icon Toy
Special command
Register User
Login User

* *
กรุณาคลิ๊ก Post message เพียงครั้งเดียว.... 

คำเตือน
  • การแอบอ้างใช้ชื่อบุคคลซึ่งอาจทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
  • การโพสรูปภาพที่ไม่เหมาะสม หรือ ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ อาจถูกดำเนินคดีทางกฏหมายได้
  • หากพบเห็นรูปภาพหรือกระทู้ที่ไม่เหมาะสมสามารถเมล์เข้ามาได้ที่ freewebboard@thaimisc.com โดยระบุ subject "กระทู้ไม่เหมาะสม" พร้อมทั้งระบุ ADDRESS ของเว็บบอร์ด