มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ - เว็บบอร์ด

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
ดู: 276|ตอบกลับ: 9

หลายชีวิต..จิตมนุษย์

[คัดลอกลิงก์]

251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935





หลายชีวิต จิตมนุษย์

เป็นประโยคที่รวมความรู้สึกได้หลากรสจริงๆนะคะ และยังเป็นข้อความที่เป็นปริศนาในจิตใจของคนเราได้อย่างดี ที่สามารถเก็บมูลรากอนุสัย จริต ขันธสันดาน และถูกเชื่อต่อไว้ด้วยภพอย่างเหนียวแน่น..!

ใบโพธิ หรือ ต้นโพธิ
เป็นสัญลักษณ์ที่เราชาวพุทธทราบดีว่า..เสมือนแทนคำบอกว่ารู้แจ้งเห็นจริง รู้ได้ถึงอะไรดี - อะไรชั่ว อะไรควรทำ - อะไรไม่ควรทำนั่นเอง

หากในยามผิดหวังเศร้าใจในมนุษย์นั่นแล้ว ลองพิศภาพนี้ดูอาจช่วยให้คลายโทมนัสลงได้...ก็เพราะ



ภาพผู้ที่นั่งหน้าโพธิได้อย่างมั่นคง
คือพระผู้ละกิเลสได้นั่นเอง
หาใช่ปุถุชนคนธรรมดาไม่
นอกนั้นหลายชีวิต..จิตมนุษย์




251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-4-19 21:52:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด




สวัสดียามเย็นค่ะน้องกิ้ฟ

วันนี้ท้องฟ้ามืดไปทั่วเลยค่ะ เรียกว่าฝนพร้อมจะตกได้เสมอ พี่ดอกแก้วเองก็เตรียมตัวเผชิญกับฟ้าฝนไว้ตลอดวันเลยนะคะ

และก็ใช้วันนี้เตรียมใจ ต้อนรับวิบากต่างๆอย่าเต็มทีให้ดีที่สุด นี่ขนาดเตรียมนะคะยังถูกวิบากกระเด็นสาดเข้ามาหลายละลอกเกือบเซเอาเหมือนกันนะคะ

ดีนะคะที่สำสรวจตรวจภูมิคุ้มกันแต่เช้า ว่าใกล้หมดอายุแล้วหรือยัง ด้วยความไม่ประมาทจึงต้องสวดมนต์ไหว้พระ เพียรสอนใจตนเองแต่เช้า เป็นการเพิ่มตัวยาบำบัดใจลงไปอีก

จนเวลานี้แม้จะเป็นวิบากที่เราตั้งใจป้องกัน ในที่สุดทุกอย่างมันก็จบลงไป จะเหลือก็แต่ร่องรอยเท่านั้นที่จะต้องบอกใจตนเองต่อไปอีกว่า...มีคนมากมายที่ถูกเข้าใจผิด เพิ่มเราเข้าไปอีกคนจะเป็นไรไป...มีเรื่องมากมายที่เข้ามาให้เราแก้ไข จะอีกเรื่องสองเรื่องจะเป็นอะไรไป ในเมื่อมันเป็นวิบากของเราเอง

จริงที่สุดค่ะที่น้องกิ้ฟกล่าวว่า.." ตราบใดที่เราไม่ลุกรี้ลุกรนหวั่นไหวไปกับสายฝน" และมีสติในการแก้ไขให้ดีที่สุดตามหน้าที่ของเรา และเปิดใจยอมรับกับวิบากได้ เรื่องต่างๆก็เป็นเรื่องเล็กจริงๆนะคะ



251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-4-19 21:53:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2022-4-19 21:55



สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว

วันนี้ฝนตกหนักตลอดบ่ายจนเจ้านายเดินมาบ่นว่า "อยู่ๆ ฝนก็ตกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยนะเนี่ย" ...ขำ เพราะเข้ากับสิ่งที่พี่ดอกแก้วบอกพอดี ซึ่งดีจังเลยนะคะกับการเตรียมตัวทุกวันเพื่อเผชิญสภาพดินฟ้าอากาศ เพราะอย่างน้อยก็มีอาวุธกระชับมั่นอยู่ในมือเพื่อการต่อสู้ที่อาจถูกจู่โจมเข้ามาอย่างไม่รู้ตัว

พิจารณาอาการของพี่ดอกแก้วแล้วก็ดูท่าจะประมาทกับสายฝนแห่งวิบากไม่ได้เลย แม้จะยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดามีการเตรียมตัวต้อนรับอย่างดีแล้วก็ยังหลบไม่พ้นจากการกระเซ็นซัด คงเรียกได้ว่าเรายังใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพต่ำเพราะต้นทุนทางสติน้อยด้อยปัญญากันนะคะ ยิ่งมีทั้งลมและฝนโหมมาแรงๆ ด้วยแล้ว ก็แทบจะยืนกันไม่อยู่เลยทีเดียว

บางครั้งก็รู้สึกเซถลาแทบหงายหลังไปเหมือนกันค่ะกับสิ่งที่ได้รับแบบไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อสูดลมหายใจลึกๆ สำรวจข้อบกพร่องต่างๆที่มี และตรวจตราเจตนาในการกระทำแล้ว ก็เลยกลับมาทรงตัวอยู่ได้ กางร่มได้ทัน และได้ดูลีลาของวิบากที่เกิดขึ้นทั้งกิริยาอาการของบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งกำลังก่อเมฆฝนใหม่ไว้เฉพาะตนๆ กันต่อไป

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะว่า การพยายามเติมประสิทธิภาพของวัคซีนเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในแต่ละวัน การบำบัดใจให้เข้มแข็งเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเผชิญวิบากและเยียวยารักษาร่องรอยที่หลงเหลือจากเหตุการณ์ ซึ่งทำให้เรื่องใหญ่ๆ ให้กลายเป็นเรื่องเล็กจนไร้ความสำคัญไปได้ในที่สุด

......น้องกิ๊ฟ.....



251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-4-19 21:54:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด



สวัสดีค่ะน้องกิ้ฟ

วันนี้เป็นเช้าอีกวันที่พี่ดอกแก้วได้สวดมนต์ไหว้พระอย่างตั้งอกตั้งใจมาก เพราะนอกจากจะเป็นวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๙ แล้ว ก็ยังเป็นการเติมพลังของกุศลให้แก่ตนเองนะคะ เพราะถ้ากุศลเรามีกำลังแรงแล้ว อกุศลวิบากคงเข้ามาใกล้ได้ยาก หรือไมก็เบาบางกำลังลง

นี่ไงค่ะที่พี่ดอกแก้วนำรูปคนนั่งกางร่มเตรียมพร้อมมากประกอบไว้ เพื่อกระตุ้นเตือนว่า ประมาทไม่ได้เลยกับดินฟ้าอากาศ ถึงฝนจะไม่ตกก็ตาม แต่แดดที่ร้อนก็ยังทำลายอุณภูมิในร่างกายได้ บางครั้งถึงกับเหงื่อตกเอาเลย ซึ่งไม่ต่างกับ ความรู้สึกที่ตกค้างอยู่ในใจของคนเรา

ความวิตกกังวลใจก็เช่นกัน มีพลังมากจริงๆที่จะทำให้เกิดความเร่าร้อนใจ ฟุ้งซ่านนำเรื่องโน้นเรื่องนี้มาประติดประต่อกันจนกลายเป็นความทุกข์ความขมขืนได้นะค่ะ

ดังนั้นในการเดินทางของชีวิต เราจะทิ้งร่มไม่ได้เลย ต้องกางไว้ประจำ เพื่อกันทั้งแดดและฝน ที่จะมีมาสู่ตนให้ได้ และหาที่นั่งพักสงบนิ่ง หยุดการเคลื่อนไหว คือความฟุ้งซ่านให้ได้นั่นเอง จึงจะเรียกว่าปลอดภัยพอสมควรนะคะ

แต่ในรูปที่นำมาให้เห็นนั้น สามารถมองเห็นภัยอื่นๆอีกนะค่ะว่า ถึงแม้จะหยุดเคลื่อนไหวแล้ว นั่งสงบแล้ว กางร่มพร้อมป้องกันแดดและฝนแล้ว แต่..ยังชะล่าใจไม่ได้เพราะยังมีลมและฝุ่นที่สามารถพัดเอาสิ่งต่างๆให้ปลิวมากระทบตนได้นั่นเอง นี่ไงค่ะชีวิต เกิดเป็นทุกข์ จริงๆเพราะต้องเป็นเป้านิ่งให้แก่วิบากกรรมจริงๆเลยนะค่ะน้องกิ้ฟ. แต่พี่ดอกแก้วก็จะทำตามที่น้องกิ้ฟบอกค่ะว่า สูดลมให้ใจลึก แล้วสู้ต่อไปด้วยสติปัญญานะคะ



251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-4-19 21:56:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด




สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว

วันพระคราวนี้ขาดพวงมาลัยสำหรับถวายพระพุทธรูป เพราะคนขายไม่ได้มาส่ง ได้แต่กระทำกิจวัตรด้วยความตั้งใจและใช้สองมือพนมอาราธนาศีล สวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตา และขอพรจากหลวงพ่อเสือว่า "ขอให้มีความสามารถรับกระทบอารมณ์ทั้งหลายด้วยสติปัญญาได้มากยิ่งขึ้น" ซึ่งก็มีความตั้งใจอย่างนี้ทุกวันเพราะรู้ว่า ในแต่ละวันจะมีวิบากจากกรรมเก่าๆ ซึ่งมาเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่เลือกไม่ได้มาให้รับรู้เสมอ

การอาราธนาศีลก็มุ่งหมายที่จะควบคุมกายและวาจาไม่ให้ก่อทุจริตเพิ่มมากขึ้น ส่วนการขอพรจากหลวงพ่อเสือนั้นก็ไม่ได้มุ่งหมายในเรื่องของการดลบันดาลอะไรหรอกค่ะ แต่เป็นเหมือนการตั้งเจตนาที่จะไม่ทำผิดพลาดซ้ำรอยเดิมโดยใช้สติปัญญาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อได้กระทำการตั้งใจไปแล้วก็รู้สึกเหมือนได้รับการคุ้มครองรักษาจากกุศลเจตนาดังกล่าวที่มาเป็นสิ่งเหนี่ยวรั้งใจให้กลับมาที่จุดยืนได้อย่างรวดเร็วแม้บางครั้งจะเตลิดเปิดเปิงไปไกลบ้างแล้วก็ตาม

และอีกสิ่งหนึ่งซึ่งถือเป็นคาถาสำคัญที่ใช้ควบคู่กันไปก็คือ "เดินหน้า ไม่ว่าของเก่า ไม่เล่าอดีต" เพราะช่วยทำให้สูดลมหายใจได้สะดวกและใช้คำว่า "ขอโทษ" "ช่างมันเถอะ" หรือ"ไม่เป็นไร" ได้บ่อยๆ ซึ่งก็ช่วยคลายปมต่างๆได้มากเลยค่ะ ...อิอิ พูดถึงแล้วก็รู้สึกถึงความโชคดีของตนเองชะมัดที่มีครูบาอาจารย์เป็นแบบอย่างที่ดียิ่ง

แต่ถึงจะเตรียมตัวมาดีแล้วอย่างไรในแต่ละวันก็ยังอดไม่ได้ที่จะมีความชะล่าใจปล่อยปละละเลยให้เกิดความฟุ้งซ่านรำคาญใจในเรื่องต่างๆ ที่ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น เรียกได้ว่า ร่มที่ใช้อยู่นั้นพร้อมที่จะมีรอยขาดหรือหลุดจากมือได้ตลอดเวลา ซึ่งก็เห็นภาพเลยนะคะกับ"เปลวแดด" ภัยความร้อนอีกชนิดหนึ่งที่พี่ดอกแก้วยกขึ้นมาให้ระแวดระวังที่อย่างน้อยก็ทำให้หลายคนมีฝ้าขึ้นที่ใบหน้าได้หากไร้การป้องกันแสงแดด

ถ้อยคำของพี่ดอกแก้วที่ค่อยๆ ลำดับความเป็นเป้านิ่งของชีวิตที่เชื่อมโยงกับวิบากกรรมจากฝนไปสู่เปลวแดดและฝุ่นละอองต่างๆ นั้นน่าประทับใจมากเลยค่ะ เพราะแสดงให้เห็นเภทภัยที่มากมายและซับซ้อนยิ่งขึ้นในเส้นทางการเผชิญภัยของชีวิต ถ้าไม่เจอภัยอย่างนี้ก็ต้องพบภัยอย่างนั้น ก็คงจะมีแต่การไม่มีชีวิตสถานเดียวเท่านั้นนะคะที่จะพ้นไปจากฝุ่นละอองต่างๆ ได้

ชอบภาพของพี่ดอกแก้วมากเลยค่ะ เพราะเมื่อพิจารณาควบคู่ไปตามคำสอนของพี่ดอกแก้วแล้วก็ยิ่งเห็นคุณค่าของ"ที่ร่ม" และ"การใช้ร่ม" มากขึ้นไปอีก ที่ให้ความปลอดภัยแก่ชีวิตได้ในหลายสถานการณ์

ภัยจากวิบากกรรมที่มาในรูปแบบต่างๆ ที่อยู่ภายนอกนั้นเราคงหลีกหนีไม่ได้แต่เราสามารถป้องกันอันตรายได้ด้วยการใช้ร่มธรรม

ภัยจากกิเลสของตนเองที่เกิดขึ้นภายในนั้นเราสามารถควบคุมได้ด้วยการใช้ร่มใจ

เพราะถ้าหากเราไม่ใช่ร่มใจที่ประกอบได้ด้วยธรรมแล้วก็คงเท่ากับเป็นการทำร้ายตัวเองโดยตรงนะคะ ด้วยการเปิดทางรับเภทภัยทั้งหลายให้เข้ามาสู่ชีวิตโดยไม่ดิ้นรนต่อสู้ แล้วก็แพ้ภัยกิเลสตีโพยตีพายโทษนั่นโทษนี่ร้องร่ำคร่ำครวญทำอกุศลเชื้อเชิญอกุศลวิบากให้มารวมกลุ่มสัมมนาเป็นแขกอย่างทวีคูณ

กราบขอบพระคุณค่ะพี่ดอกแก้ว



251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-4-19 21:57:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด




สวัสดียามเย็นนะคะน้องกิ้ฟ

วันนี้เจริญใจกับคำบอกเล่าของน้องกิ้ฟจริงๆค่ะ และรู้สึกปลื้มใจไปด้วยกับการกระทำกุศลที่ตั้งใจไว้ดีแล้วของน้องกิ้ฟตลอดมา พวงมาลัยไม่มีพี่ดอกแก้วว่าช่างเถอะค่ะ แค่บรรจงพนมมือด้วยใจศรัทธา และตั้งสัจจะวาจาที่มั่นคงนั้นสำคัญและดีเยี่ยมกว่าค่ะ

ยิ่งสามารถรักษาอุดมคติที่ตั้งใจไว้ได้ด้วย นับว่ายอดเยี่ยมเลยค่ะ เพราะการเข้าถึงคุณงามความดีนั้นอยู่ที่กาย วาจา และใจของเรานั่นเองจริงไหมค่ะ

ดูจากรูปนี้อีกเช่นกัน ดอกไม้ได้พิงแนบใกล้ชิดกับองค์พระ แต่ถ้าผู้ที่นำไปกราบไหว้แล้ววางไว้แล้วหันหลังกลับออกไปโดยที่ไม่เข้าใจจริงว่า ชีวิตเราเองต่างหากที่ต้องทำดีหนีชั่ว การไหว้นั้นก็ไม่เกิดประโยชน์มาก เพียงได้แต่กุศลในขณะนั้นๆเท่านั้นเอง และยิ่งถ้าไม่พยายามดำเนินชีวิตด้วยคุณธรรมแล้ว ไม่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนหรอกนะคะ ที่จะคุ้มครองชีวิตได้ จะมีก็แต่ความดีเท่านั้นที่ผู้ทำย่อมได้ผลเองตามลำพัง

ดูไปแล้วชีวิตของคนส่วนมาก ลำบากและได้รับความทุกข์มากจริงๆนะคะ โอกาสที่จะสุขกาย สบายจริงแทบไม่มีเลย ทำให้มองออกได้ว่า อดีตเหตุฝ่ายกุศล ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล เมตตาธรรม กรุณาธรรม ต่างได้ทำกันมาน้อยจริงๆนะคะ

ด้วยเหตุนี้นี่เอง พี่ดอกแก้วจึงพยายามอย่างยิ่ง ที่จะเติมเต็มให้กับชีวิตตนเองเสมอ ด้วยการอาศัยพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงวางหลักชีวิตที่ควรดำเนิน ด้วยบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ให้มากที่สุดเท่าที่มีความสามารถนะคะ เพราะทางชีวิตโน้นจะได้คลายจากความไม่พร้อมลงได้

จริงที่สุดเลยค่ะน้องกิ้ฟที่ว่า " ภัยจากวิบากกรรมที่มาในรูปแบบต่างๆ ที่อยู่ภายนอกนั้นเราคงหลีกหนีไม่ได้แต่เราสามารถป้องกันอันตรายได้ด้วยการใช้ร่มธรรม ส่วน
ภัยจากกิเลสของตนเองที่เกิดขึ้นภายในนั้นเราสามารถควบคุมได้ด้วยการใช้ร่มใจ " และหนทางที่จะหลีกหนีไปให้พ้นได้ก็ต่อเมื่อ หยุดเกิดได้เท่านั้น

และในระหว่างทางที่กำลังเดินไปด้วยศรัทธาในจุดหมายและ วิริยะในเหตุที่ทำให้เกิดผลเช่นนั้น เราต้องมีกำลังใจเหมือนกันนะคะ เช่นนึกถึงหลวงพ่อเสือท่าน อย่างที่น้องกิ้ฟทำนั่นเอง กำลังใจที่จะทำให้เกิดการอดทนต่อสู้กับกิเลสต่างๆมีมาได้มากมายเลยนะคะ ขออนุโมทนากุศลกับน้องกิ้ฟด้วยค่ะ.



251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-4-19 21:58:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด



สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว

ดีจังเลยค่ะที่ได้คุยกันในประเด็นเล็กๆ คือ การไหว้พระและดอกไม้บูชา แต่กระทบถึงรากฐานของชีวิตได้มาก เพราะกรรมเหล่านี้แสดงถึงก้นบึ้งของจิตใจโดยตรง และความแตกต่างของแต่ะละชีวิตที่ปรากฏในปัจจุบันชาตินี้ก็ฟ้องถึงความบกพร่องในอดีตกรรมที่เป็นกุศลของแต่ละคนได้เป็นอย่างดีอย่างที่พี่ดอกแก้วบอกว่าทำสิ่งดีๆกันมาน้อยจริงๆ

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะว่า อามิสบูชามีคุณค่าน้อยกว่าการปฏิบัติบูชามากมายมหาศาล เพราะแม้จะมีอุปกรณ์ในการกระทำกรรมอลังการอย่างไรหากไร้ซึ่งสัมมาทิฏฐิแล้วก็ยากจะที่จะสร้างกุศลอื่นๆ ที่จะมาเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ต่อไป

เราจึงได้เห็นการกระทำกุศลที่คลุกเคล้าไปกับความงมงายในรูปแบบที่หลากหลาย และมีความอยากได้ การร่ำร้อง และการวอนขอในเรื่องต่างๆ เข้ามาแทรกแซงทำให้ความต่อเนื่องของกุศลลดน้อยถอยลงไปอย่างไม่รู้ตัว และไม่รู้ว่าควรตั้งเจตนาอย่างไรในการกระทำนั้น

และสำหรับตนเองนั้นในโอกาสใดที่สามารถหาพวงมาลัยได้โดยไม่ลำบากหรือสวนทางกับกาลเทศะ ก็ตั้งใจที่จะใช้พวงมาลัยดอกมะลิเป็นดอกไม้บูชาพระมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่น เพราะสีและกลิ่นก่อให้เกิดความสุขและสงบได้ง่าย และนอกจากใช้พวงมาลัยเพื่อความประณีตของจิตแล้ว ยังตั้งใจที่จะจดจำอุปกรณ์กรรมชนิดนี้มาเป็นนิมิตให้แม่นยำอีกด้วยค่ะเพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่อารมณ์ใกล้ตาย

เพราะหากใช้ดอกไม้ที่หลากหลายจนเกินไปการจดจำของจิตก็จะไม่ประทับแน่น จึงเลือกใช้พวงมาลัยเพื่อสร้างนิมิตสำหรับการบูชาพระรัตนตรัย และตอนนี้ก็มีความแม่นยำในภาพของพวงมาลัยกับพระพุทธรูปบ้างแล้วค่ะ ในคราวใดที่ต้องสวดมนต์ไหว้พระในใจ ก็จะมีพวงมาลัยนี้มาถวายพระรัตนตรัยเสมอ แม้กระทั่งการสวดบทพุทธมงคลคาถาก็จะมีดอกสาละและพวงมาลัยไปกราบถวายพระพุทธเจ้ากับพระอรหันต์ทั้งแปดทิศผู้ที่ควรเคารพบูชาเสมอ ซึ่งเป็นร่มใจคันเล็กๆ ที่นำมาใช้ในยามที่ปลอดจากสายฝนและแสงแดด

เพราะนึกถึงคำของหลวงพ่อที่ว่า "จริงเสียอย่างเดียวสำเร็จทุกอย่าง" ก็เลยนำมาประยุกต์ใช้กับการสร้างนิมิตด้วยอุปกรณ์กรรมคือพวงมาลัยที่หน้าพระพุทธรูปเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญก็เผื่อว่า เวลาที่ต้องเข้าโรงพยาบาลหรือใกล้จะตายพอมีใครซื้อพวงมาลัยมาให้จะได้ไม่ตกใจและก็สามารถรวบรวมศรัทธาในพระรัตนตรัยได้อย่างรวดเร็ว..อิอิ

กราบขอบพระคุณในคำแนะนำดีๆ จากพี่ดอกแก้วนะคะ


251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-4-19 22:00:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด



บ่ายกว่าแล้วพร้อมกับแสงแดดที่ร้อนแรงในวันนี้นะคะน้องกิ้ฟ หาแน่อะไรไม่ได้เลย เมื่อวานฝนตก แต่วันนี้แดดแรงมาก ยังไม่แน่ว่าตอนเย็นพายุฝนจะกลับมากระหน่ำอีกหรือเปล่า เหมือนชีวิตของเราเลยนะคะใช่ว่าจะราบรื่นตลอดทั้งวัน เช้าอาจสบาย สายอาจทุกข์ใจ เย็นค่ำจะพบกับอะไรก็หารู้ก่อนไม่ และก้ไม่แน่เลยว่าชีวิตจะอยู่รอดมีลมหายใจไปถึงวันพรุ่งนี้ไหมก็ไม่แน่

พูดถึงความตายแล้วน่ากลัวนะค่ะ เพราะแต่ละคนต่างไม่รู้เลยว่าตนเองจะสิ้นลมลงไปด้วยอาการใด เวลาใด ที่สำคัญตายแล้วจะไปไหน สบายกว่าภพนี้หรือต้องทุกข์ทรมานกว่า เป็นความลึกลับที่สุดเกินที่ใครจะหยั่งรู้ได้เลย



แต่ถ้าหากเราเตรียมชีวิตให้พร้อม และหมั่นสร้างกรรมดี โดยเฉพาะคิดดี นึกดีไว้เสมอๆได้คล่องแล้ว สุคติย่อมเป็นที่หวังได้ เหมือนกับที่น้องกิ้ฟพยายามสร้างนิมิตหมายด้วย พวงมาลัยที่พร้อมไว้กราบไหว้บูชาพระนั่นเอง นี่ละค่ะการเตรียมใจให้คุ้นพร้อมก่อนจะสิ้นลม เพื่อสร้างอารมณ์แห่งมรณาสันนกาลให้แก่ตนเองอย่างดีเยี่ยม



บรรพชนคนโบราญมักจะให้อารมณ์คนที่ใกล้จะตาย ด้วยการเอาดอกไม้มาให้กำแล้วบอกว่า เอาไว้ไปไหว้พระจุฬามณีบนสวรรค์ บ้างก็บอกบทสวดมนต์ให้พูดตาม

แต่ถ้าบุคคลนั้นมิเคยสร้างความยินดีในการสวดมนต์และไม่ใส่ใจในพิธีกรรม ที่จะต้องมีเครื่องหอม คือดอกไม้ ธูปเทียนแล้ว ถึงเวลานั้นจะมีคนนำมาให้ มีคนมานำทางด้วยการชักชวนสวดมนต์ก็ตาม จิตที่ไม่ได้ฝึกไว้นั้นก็มิอาจน้อมรับได้

ดังนั้นการที่น้องกิ้ฟเลือกหาสิ่งจดจำและกระทำให้เป็นอาจิณเหล่านี้นี่เอง จะเป็นกรรมนิมิต หรือไม่ก็กรรมอารมณ์ที่ดีที่สุดเลยนะคะ พี่ดอกแก้วขออนุโมทนาสาธุ ขอให้สิ่งที่ตั้งใจทำมานั้นจงเป็นที่พึ่งให้แก่น้องกิ้ฟได้ในยามนั้น

พูดถึงความตายเราก็ต่างต้องเตรียมพร้อมไว้เสมอๆในตอนเป็นๆนี่เอง เพราะบางคนประมาทจริงๆ คิดว่าหลวงพ่อจะมาช่วย จะมารับตนเองได้ การคิดเช่นนั้นน่าห่วงนะคะ เพราะไม่มีใครช่วยเราได้เต็มร้อยหรอกค่ะหากเราไม่ช่วยตนเอง

ทำให้นึกอุปมาได้กับ เปลวเทียนที่ดับลง อาจจะเพราะแรงลมหรืออะไรก็ตามที ความดับนั้นก็ดับลงทันที นี่ไงค่ะใครจะมารับไปได้ เพราะไม่มีอะไรลอยออกไปใช่ไหมคะ จะได้มีหลวงพ่อมาคว้ารับไปได้

แต่ถ้าหากก่อนแรงลมที่กรรโชกมา เรามองเห็นพวงมาลัยและนึกได้ในความคุ้นเคยว่า พวงมาลัยนั้นเรากำลังกำลังถือไว้ในมือต่อหน้าพระพุทธรูป หรือไม่ก็กำลังนำพวงมาลัยยกขึ้นพร้อมพานถวายให้แก่หลวงพ่อท่าน รับรองได้เลยว่าสบายมากค่ะ ต้องไปดีแน่นอน เพราะจิตได้รับเอาสิ่งสวยงามที่เป็นกุศลนั้นไว้ ก่อนที่เทียนชีวิตจะดับลงไป

นึกอย่างนี้แล้วพี่ดอกแก้วอยากจะให้ทุกคนมีความเตรียมตัวอย่างน้องกิ้ฟได้จังเลย.







251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-4-19 22:01:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2022-4-19 22:04



สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว

อ่านแล้วรู้สึกเหมือนว่า พระพุทธองค์ประทับอยู่เบื้องหน้า ใต้ต้นมหาโพธิ์ที่ยิ่งใหญ่ และตนเองกำลังนั่งฟังพระธรรมคำสอน ที่แบ่งแยกคนออกตามกอบัวเหล่าต่างๆ เมื่อนำมาพิจารณาก็รู้สึกว่าตนมีโอกาสที่จะก้าวเข้าไปฟังธรรมใกล้ๆพระพุทธองค์มากขึ้น

บอกตนเองเสมอว่าความพยายามในการสั่งสมปัญญาบารมี จะเป็นทางให้พ้นทุกข์ได้ จะไม่ย่อท้อจากธรรมเลย ทั้งนี้ก็เพราะได้รับโอกาสดีๆจากมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิที่ช่วยขัดเกลากิเลสให้เบาบางลง

และก็ต้องขอขอบคุณพี่ดอกแก้วนะคะ ที่ให้ธรรมะเป็นบัวที่บานอยู่กลางใจ

....ฝนค่ะ....



251

กระทู้

328

โพสต์

6935

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

เครดิต
6935
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-4-19 22:03:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด



สวัสดีค่ะน้องฝน

ยินดีมากนะคะที่น้องเข้ามาอ่าน การสนทนาธรรมของพี่ดอกแก้ว กับ น้องกิ้ฟ ที่เราต่างได้แลกเปลี่ยนมุมมองของชีวิตและเอาหลักธรรมเข้ามาผสานใจ เพื่อทางเดินที่จะร่มเย็นด้วยธรรมนะค่ะ

ทุกสิ่งที่เขียนออกมานั้นก็เพื่อกระตุ้นเตือนตนเองและผู้ที่เข้ามาอ่านให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ชีวิตที่รอบคอบ และชี้ให้เห็นถึงความประมาทในการใช้ชีวิต ในบางอย่างที่อาจเกิดกับตนโดยรู้เท่าไม่ถึงการนั่นเอง

การได้สนทนาธรรมนี้จัดเป้นมงคลของชีวิตนะคะ เพราะจะได้ทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น ในแง่มุมต่างๆ ซึ่งเราอาจจะนึกไปว่าไม่สำคัญและมองผ่านไป ทั้งๆที่จริงแล้ว ทุกจังหวะของชีวิตคือกรรมทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะเป็นกรรมฝ่ายดีหรือฝ่ายชั่วนั่นเอง

พี่ดอกแก้วต้องขออนุโมทนาในกุศลกรรมที่น้องฝนเพียนสร้างสมมา และการเสียสละมาสร้างประโยชน์ให้แก่เพื่อนร่วมทุกข์ ด้วยการมาร่วมช่วยสอนพระอภิธรรมที่มูลนิธิด้วยดีเสมอมานะคะ และดีใจอย่างยิ่งในเจตนาที่น้องฝนจะเพียรสร้างบารมีธรรมให้เจริญยิ่งขึ้นไปค่ะ

เมื่อมั่นใจ..จงไปตามศรัทธา
มีความเพียรแกร่งกล้าไปคว้าฝัน
ขยันเดินเรื่อยไปในทุกวัน
ที่สุดนั้นถึงจุดหมายได้แน่นอน



รูปภาพนี้พี่ดอกแก้วตั้งใจนำมาให้นะค่ะ คือทางที่เราเลือกเอง และต้องเดินก้าวขึ้นให้สูงด้วยตัวเองจริงๆ แต่พี่ดอกแก้วขอเป็นกำลังใจให้นะคะ.



ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ประวัติการแบน|อุปกรณ์พกพา|ข้อความล้วน|อภิธรรมออนไลน์

GMT+7, 2024-4-29 03:08 , Processed in 0.101468 second(s), 28 queries .

Powered by Discuz! X3.4, Rev.75

Copyright © 2001-2021 Tencent Cloud.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้