หวนรำลึก นึกแล้วเล่าใหม่
จดหมายเหตุ..งานพระราชทานเพลิงศพพระครูศรีโชติญาณ
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/izvw4168.jpg
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/2497-14.gifhttps://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/2497-14.gifhttps://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/2497-14.gif
จดหมายเหตุจากงานพระราชทานเพลิงศพพระครูศรีโชติญาณ (พระมหาแสวง โชติปาโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีประวัติ ณ เมรุวัดศรีประวัติ ต.ปลายบาง อ.บางกรวย
จ.นนทบุรี
ระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๕
...วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๕ เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น.
อาจารย์บุษกร เมธางกูร ได้นำคณะศิษย์บางส่วนจากมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ เดินทางไปยังวัดศรีประวัติ เพื่อตระเตรียมความพรักพร้อมเกี่ยวกับหนังสือที่จะต้องใช้แจกให้แก่ผู้ที่มาร่วมงาน พระราชทานเพลิงศพฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๔๕ ซึ่งหนังสือที่จะแจกในวันดังกล่าวนี้ มูลนิธิพุทธางกูรได้เป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสืออันเป็นผลงานของหลวงพ่อแสวงชื่อหนังสือทางสายเอก จำนวน ๓,๐๐๐ เล่ม และมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิก็ได้เป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสือเรื่องคนตายแล้วไปเกิดได้อย่างไร จำนวน ๓,๐๐๐ เล่มเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อเป็นกตัญญูกตเวทิตาธรรมและอาจาริยบูชา แก่หลวงพ่อแสวงผู้มีอุปการคุณยิ่งแก่ทั้งสองมูลนิธิ …
.อาจารย์บุษกรและกลุ่มศิษย์ที่ติดตามมาในวันนั้น ได้ช่วยกันจัดทำโบว์จากริ้บบิ้นไว้สำหรับผูกติดกับหนังสือให้เป็นชุดๆอย่างสวยงาม แต่เนื่องจากหนังสือยังจัดส่งไม่ครบ จึงไม่อาจผูกรวมกันไว้เป็นชุดได้ อาจารย์จึงต้องนัดหมายให้ลูกศิษย์มาช่วยกันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น และจะได้ร่วมพิธีสวดเปิดศพของหลวงพ่อตามประเพณีในช่วงบ่ายด้วย
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/wizw0732.jpg
วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๕ ตั้งแต่เวลาเช้า
ศิษย์จากมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิได้ทยอยกันไปที่วัดศรีประวัติ
เพื่อช่วยกันทำโบว์รวมทั้ง จัดชุดหนังสือของมูลนิธิและหนังสือที่จัดพิมพ์โดยลูกศิษย์ท่านอื่นๆเพื่อแจกในงานนี้เช่นเดียวกัน
และเนื่องจากลูกศิษย์ที่ไปจากมูลนิธิได้เดินทางไปตั้งแต่เวลาเช้า และไปเป็นจำนวนมาก ทุกคนจึงได้ช่วยงานด้านอื่นของทางวัดในฐานะเจ้าภาพอย่างเต็มตัวอีกด้วย
.
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/nohd4848.jpg
เมื่อถึงเวลาตามกำหนดการ อันเป็นพิธีแห่ศพไปยังเมรุลอยกลางแจ้งนั้น ลูกศิษย์สายต่างๆได้พากันขึ้นมายังศาลาใหญ่เพื่อร่วมพิธีอย่างแน่นขนัด
เมื่อเจ้าพนักงานได้ยกหีบบรรจุศพของหลวงพ่อลงจากศาลาแล้ว ขบวนพิธีแห่ศพได้เริ่มด้วยคณะสงฆ์ที่มาร่วมงาน คณะครูจากโรงเรียนวัดศรีประวัติในชุดปกติขาว และบรรดาศิษยานุศิษย์ในชุดสีดำได้เดินติดตามกันเป็นทิวแถวเวียนซ้ายรอบเมรุลอยจำนวน ๓ รอบ และเมื่อเจ้าพนักงานได้ยกหีบบรรจุศพขึ้นไปวางบนเมรุแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธีในช่วงต้น
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/scku7411.jpg
.พิธีการต่อไปคือการสวดเปิดศพ โดยคณะศิษย์ได้ขึ้นไปรวมกันบนศาลาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อประกอบพิธีหลังจากเสร็จสิ้นพิธีแล้ว อาจารย์บุษกรได้นำลูกศิษย์ทุกคนเดินมาที่หอฉัน เพื่อช่วยกันห่อหนังสือให้เสร็จสิ้น
ทุกคนต่างกุลีกุจอช่วยกันทำงานอย่างไม่มีร่องรอยของความเหน็ดเหนื่อย ไม่มีใครเอ่ยปากบ่นเลยสักคนว่างานมาก ทุกคนต่างตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ประณีตเท่าที่จะทำได้ และเมื่อถึงเวลาสวดพระอภิธรรมให้แก่หลวงพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนก็ยังกระฉับกระเฉงที่จะขึ้นไปร่วมฟังสวด
และในคืนนี้…พระอาจารย์สุมณ เจ้าอาวาสวัดบางปลาม้า ได้ขึ้นธรรมาสน์แสดงพระธรรมเทศนาและข้อเตือนใจ ให้พุทธบริษัทใส่ใจที่จะรักษาพระพุทธศาสนาไว้ให้เป็นปึกแผ่น …ในคืนนั้นกว่าพวกเราทุกคนจะแยกย้ายกันกลับก็เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม
.
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/ydsf0243.jpg
วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๕ เวลา ๐๙.๐๐ น.
คณะศิษยานุศิษย์ได้มาพร้อมกันบนศาลาเพื่อร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลในช่วงเช้า
ซึ่งวัดสามพระยาปวารณาตนเป็นเจ้าภาพในเช้าวันนี้ และได้อาราธนาพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ขึ้นแสดงพระธรรมเทศนาหนึ่งกัณฑ์
จากนั้นก็เป็นการถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์จำนวนนับร้อยรูป
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/apau5636.jpg
และในช่วงบ่ายเวลา ๑๓.๐๐ น.
ได้อาราธนา พระธรรมกิตติวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ขึ้นแสดงพระธรรมเทศนาอีกหนึ่งกัณฑ์ และเมื่อพระธรรมเทศนาจบลง
บริเวณการประกอบพิธีได้ย้ายจากบนศาลาลงมายังบริเวณที่ตั้งเมรุลอย และปะรำพิธีโดยรอบ
แต่ประรำพิธีและเก้าอี้ที่ทางวัดจัดไว้สำหรับผู้มาร่วมงานนั้นไม่เพียงพอต่อการมาของศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย
พระสงฆ์จำนวนมากมายหลายรูปต้องออกมานั่งกลางแจ้งภายนอกประรำพิธี
และฆราวาสทั้งหลายที่มาจากทิศต่างๆโดยมาถึงบริเวณช้ากว่าผู้อื่นก็ต้องพากันยืนเป็นแถวอยู่ด้านข้างประรำพิธีบ้าง ด้านข้างเจดีย์บ้าง
นับเป็นความน่าปลาบปลื้มใจที่ลูกศิษย์ทั้งหลายยังไม่ลืมหลวงพ่อแสวง .
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/kisk5121.JPG
....และที่น่าปลาบปลื้มใจมากยิ่งขึ้นก็คือ
พระราชาคณะชั้นสมเด็จซึ่งเป็นกรรมการของมหาเถรสมาคมจำนวน ๓ รูป
คือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ,
สมเด็จพระพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม
และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุวรรณาราม
ได้มาร่วมเป็นประธานในพิธีนี้
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/drhn3147.jpg
พระเมธีวรญาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ในฐานะศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อ
ได้เข้ามาทำหน้าที่อำนวยการเกี่ยวกับงานศพนับตั้งแต่วันมรณภาพ ของหลวงพ่อจนกระทั่งมาถึงวันนี้
พระพิพิธธรรมสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม และในฐานะประธานมูลนิธิพุทธางกูร
ได้มาช่วยเป็นพิธีกรให้งานดำเนินงาน ไปอย่างราบรื่น
และระหว่างที่รอรับไฟพระราชทานอยู่นั้น โฆษกซึ่งเป็นอนุศาสนาจารย์ของกองทัพบก
ได้กล่าวถึงประวัติและผลงานของหลวงพ่อด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน เปี่ยมไปด้วยความเคารพ
ทำให้ผู้ฟังหลายท่านถึงกับโศกเศร้าขึ้นมาที่ต้องสูญเสียหลวงพ่อไปในครั้งนี้ และหลายท่านมีความภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ..
...
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/ayos6278.jpg
เมื่อไฟพระราชทานมาถึงแล้ว ก็ได้เวลาเข้าสู่พิธีการอย่างเต็มรูปแบบ ผ้าบังสุกุลผืนแรกได้ถูกน้ำขึ้นไปทอดถวายบนเมรุลอย ด้วยมือของอาจารย์บุษกร เมธางกูร จวบจนกระทั่งผ้าบังสุกุลผืนสุดท้ายซึ่งทอดโดยประธานในพิธีคือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ แห่ง วัดสระเกศ และประกอบพิธีจุดไฟพระราชทาน
หลังจากนั้นคลื่นมหาชนในชุดสีดำก็ได้หลั่งไหลจากบริเวณต่างๆเข้ามายังหน้าเมรุเพื่อขึ้นไปวางดอกไม้จัน กว่าที่การวางดอกไม้จันจะเสร็จสิ้นก็ใช้เวลานานนับเป็นชั่วโมง ประมาณกันว่าผู้ที่มาร่วมงานในวันนี้มีจำนวนไม่น้อยกว่า ๓,๐๐๐ คน เพราะหนังสือจากลูกศิษย์สายต่างๆซึ่งจัดชุดไว้โดยให้แจกแบบไม่ซ้ำกันนั้นไม่เพียงพอต่อการแจกจ่าย
ข้าราชการและพระผู้ใหญ่หลายท่านกล่าวว่า งานของวัดศรีประวัติในวันนี้ สมกับชื่อว่า”ศรีประวัติ” เพราะนอกจากจำนวนผู้มาร่วมงานจะมากมายเป็นพันๆคนแล้ว จะต้องจารึกไว้ว่า นอกจากงานพระราชพิธี ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกและเป็นวัดแรกในเขตจังหวัดนนทบุรีที่มีพระราชาคณะชั้นสมเด็จมาร่วมในงานเดียวกันถึง ๓ รูป
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/pipv6527.jpg
.เวลา ๒๑.๐๐ น. อันเป็นเวลาที่ใกล้กำหนดการประชุมเพลิงศพจริง
คณะศิษย์จำนวนมากที่ยังอยู่รอร่วมพิธี ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งในบริเวณเมรุลอย …เมื่อเจ้าพนักงานได้เชิญหีบทองบรรจุศพของหลวงพ่อลงจากเมรุมาสู่ยานพาหนะสำหรับเคลื่อนศพแล้ว เสียงสะอึกสะอื้นก็เริ่มระงมกันอีกครั้ง พิธีการในครั้งนี้เป็นพิธีการครั้งสุดท้ายที่ลูกศิษย์ทั้งหลายกระทำให้แก่หลวงพ่อก่อนที่ร่างของหลวงพ่อจะมอดไหม้ไปในกองเพลิง
พระภิกษุจำนวนเกือบร้อยรูปได้เดินนำหน้าขบวนแห่ศพไปด้วยความสงบ เจ้าพนักงานค่อยๆเคลื่อนยานพาหนะไปตามทางอย่างช้าๆ โดยมีอาจารย์บุษกรและคณะศิษย์มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิเดินตามมาอย่างใกล้ชิด …ขบวนแห่อันยาวเหยียดได้มุ่งตรงไปยังเมรุวัดศรีประวัติด้วยความเศร้าสร้อย
..เมื่อเวียนรอบเมรุครบสามรอบแล้ว เจ้าหนักงานและเจ้าหน้าที่ประจำเมรุ ได้นำโลงของหลวงพ่อขึ้นสู่จิตกาธาน ผ้าบังสุกุลถูกทอดวางไปบนโลงเป็นผืนแรกด้วยมือของอาจารย์บุษกรครั้งและเมื่อพระสงฆ์ทำพิธีชักผ้าบังสุกุลครบทั้ง ๔ ผืนแล้ว เจ้าหน้าที่ประจำเมรุก็ได้เคลื่อนโลงบรรจุศพหลวงพ่อเข้าสู่เตาเผาด้วยความระมัดระวัง
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/xmfe6568.jpg
การวางดอกไม้จัดครั้งสุดท้ายได้เริ่มขึ้นด้วยมือของพระภิกษุ ผู้เป็นสหายสนิทของหลวงพ่อ
เปลวเพลิงค่อยๆเริ่มเผาไหม้ดอกไม้จันที่ถูกวางลงไปแต่ละดอก แต่ละคนที่เดินเข้ามาล้วนอยู่ในอาการโศกสลด บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาเป็นเส้นสาย
โดยเฉพาะอาจารย์บุษกรนั้นนอกจากจะปรากฏคราบน้ำตาบนใบหน้าแล้ว
ดวงตายังแดงช้ำตัดกับใบหน้าที่ซีดเซียวจนเห็นได้ชัด
เมื่อดอกไม้จันดอกสุดท้ายได้ถูกวางลงแล้ว เจ้าหน้าที่ประจำเมรุได้ปิดฝาเตาเผาจนสนิทพร้อมกับเร่งไฟไปตามกระบวนการ
บัดนี้ พิธีการทางศาสนาได้สำเร็จสมบูรณ์แล้ว แต่พิธีแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณของพวกเรายังไม่สิ้นสุดลงแค่นั้น
อาจารย์บุษกร ได้เรียกลูกศิษย์ทุกคนเข้ามารวมกันในบริเวณลานปูนด้านข้างเมรุซึ่งมองเห็นเตาเผาศพได้อย่างชัดเจน
อาจารย์บอกว่า ความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นในวันนี้มีมากมาย เพราะเราต้องสูญเสียครูบาอาจารย์ผู้มีความรู้ความสามารถไปอย่างไม่มีวันกลับ
บอกตรงๆว่า การจัดงานในวันนี้ไม่เคยคิดไว้ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ เพราะเชื่อมั่นว่า ด้วยอำนาจแห่งคุณงามความดีที่หลวงพ่อได้ทำมาจะเป็นสิ่งที่มาคุ้มครองให้
และเห็นถึงคุณค่าของพระธรรมขึ้นจริงๆอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน และเชื่อในคำว่า “ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม”
เพราะหลวงพ่อไม่เคยแจกเครื่องรางของขลังให้ลูกศิษย์ แต่หลวงพ่อแจกจ่ายธรรม
และในวันนี้ ธรรมที่หลวงพ่อได้แจกจ่ายไปทำให้ลูกศิษย์ทั้งหลายเดินทางกลับมาร่วมงานอย่างล้นหลามจนประจักษ์แก่สายตาของทุกคนแล้ว
นี่แหละที่เป็นบทพิสูจน์ว่า “นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา” …
วัดศรีประวัติแห่งนี้ เป็นแผ่นดินที่หลวงพ่อได้สร้างคุณงามความดีให้เกิดขึ้นนานาประการ
ท่านเป็นเจ้าของที่นี่ เพราะฉะนั้นพวกเราทุกคนจะจรดศีรษะกราบแนบไปบนพื้นนี้เพื่อบูชาหลวงพ่อพร้อมกัน
https://webboard.abhidhammaonline.org/old/picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/ibqc4161.jpg
ความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นกับพวกเราในวันนี้แม้จะมากมายอย่างไร
ก็เป็นเพียงความเศร้าโศกที่เกิดขึ้นจากความสูญสียครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นปุถุชนคนธรรมดาเท่านั้น
แต่ในชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เราเศร้าโศกที่สูญเสียพระบรมศาสดา
ไม่เคยเลยสักครั้งที่เราได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีพระบรมศพของพระองค์
เราต้องตั้งใจว่า ต่อไปนี้เราจะไม่ทำตัวเองเป็นผู้ห่างไกลรัศมีพระธรรม
ขอให้สัญญาว่า จะรักษาเจตนาในการเรียนพระอภิธรรมไว้อย่างมั่นคง
..เมื่อก่อนนี้หลวงพ่อจะพูดกับพวกเราเสมอว่า .เรียนเถอะนะ ไม่ยากหรอก.. ท่านจะคอยเคี่ยวเข็ญพวกเราอยู่ตลอดเวลา ..
แต่วันนี้เราจะมาสัญญากันว่า เราจะดูแลพระศาสนาอย่างสุดความสามารถ
..ใครที่มีความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อเอาไว้ ก็ช่วยกันสอน
ใครที่ปฏิบัติได้ก็ช่วยกันฝึกหัด สามัคคีกันช่วยเหลือกันไว้
เพราะในที่สุดก็ต้องมีการพลัดพรากเหมือนกับที่เรากำลังประสบอยู่ในวันนี้..
ขอให้ทุกคนตั้งใจกล่าวตามว่า ข้าพเจ้าจะรักษาเจตนา อุดมการณ์ และงานของหลวงพ่อไว้ด้วยชีวิต
ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใด ข้าพเจ้าจะนึกถึงการต่อสู้ของหลวงพ่อที่มีมาตลอดจนวาระสุดท้ายที่หลวงพ่อต้องการฟังเรื่องอภิธรรม
ลูกๆทุกคนจะรักษาเกียรติคุณของหลวงพ่อไว้สุดความสามารถและชั่วชีวิตนี้
หลังจากนำกล่าวคำอธิษฐานแล้ว อาจารย์ได้พาลูกศิษย์ทุกคนไปกราบลาท่านเจ้าอาวาสและ ท่านเจ้าคุณเมธีวรญาณก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน
เพื่อมาร่วมพิธีเก็บอัฐิในเช้าวันรุ่งขึ้น
หน้า:
[1]
2