ถ้าเผื่อจะถามว่า ไอ้เจ้าตัวความสุข ไอ้เจ้าตัวความสงบนี่มันไปไหนเสียหมด
...เหมือนกับว่าบ้านเมืองเราสงบสุข หรือในที่นี้ไม่มีโจรร้าย ก็เพราะว่าพวกโจรผู้ร้ายถูกจับกักขังไว้ในคุกตะรางหมดแล้ว ตรงนี้จึงไม่มีผู้ร้าย แต่ความสุขความสงบที่เราแสวงหากันอยู่ มันไม่ได้ถูกใครจับไป ไม่มีคุกตะรางใดที่จะกักขังความสุขความสงบไว้ได้ มันอยู่รอบๆ ตัวเรานี่เอง โดยเฉพาะอยู่ในจิตใจของเรา
แต่เพราะ จิตใจของเราไปกักขังอย่างอื่นเอาไว้ ...กักขังความอุปาทาน กักขังความรู้สึกทะยานอยาก และกักขังความรู้สึกที่ล่วงผ่านไปแล้ว หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า ใจของเรานั้นเต็มไปด้วยนักโทษที่ร้ายกาจ จึงไม่มีโอกาสที่จะต้อนรับใครได้อีก
พูดได้ว่าคุกนั้นเต็มไปหมดแล้วด้วยนักโทษอาชญากรรมที่ฆ่าตัวเราเอง ก็คือ โลภะ โทสะ และโมหะ ในขณะที่ภายนอกคุกนั้นมันมีความสงบสุขอยู่
ฉะนั้น จิตใจของเราจึงไม่เคยกักขังความสงบเอาไว้ในใจ สุขเอาไว้ในใจ
แต่กลับปล่อยให้สุขนั้นไปอยู่กับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แล้วให้ความสงบของเราไปอยู่กับสถานที่ต่างๆ หมด
การที่เรามีความมุ่งหมายหรือมีความรู้สึกว่าที่นั้นสงบ สิ่งนั้นสงบ ก็เหมือนกับปล่อยความสุขความสงบออกจากคุกใจของเราไป ในทำนองเดียวกันเราก็กักขังกิเลสเอาไว้ เราจึงไม่ได้รับความสุขนั่นเอง
|