ผู้ที่เคยมาพักอาศัยในร่มเงาของศาลาเสือพิทักษ์มีจำนวนหลายชีวิตที่แยกตัวไปแล้วกระทำสิ่งที่เจริญบางชีวิตกระทำความเสื่อมให้เกิดบาดแผลใหญ่บางชีวิตก็ทำสลับกันไปทั้งเจริญและเสื่อม ..จึงมีผู้ตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดเมื่อเขาเหล่านั้นได้มาศึกษาธรรมะจนเข้าใจดีแล้วจึงได้ย้อนกลับไปทำอกุศลหรือความเสื่อมเหล่านั้นให้เกิดขึ้นอีก แทนที่จะพัฒาชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น
คำตอบที่จะมอบแก่ทุกท่านก็คือ “ธรรมะไม่ใช่วัคซีนกันพิษสุนัขบ้าหรือวัคซีนป้องกันโรค”อย่างที่หลวงพ่อท่านบอกว่า การเรียบจน ท่องจบ จดจบ แม้กระทั่งอัด(เสียง)จบก็ไม่ช่วยให้เกิดผลดีอะไรถ้าไม่นำไปปฏิบัติให้จบ เราก็ควรรู้กันดีอยู่แล้วว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้รวมถึงชีวิตจิตใจของเราต่างก็ตกอยู่ในสภาพไตรลักษณ์ดีก็ไม่เที่ยง ชั่วก็ไม่เที่ยง จึงอย่าไปจำหนิใครเขา “ให้ดูดีเก็บไปใช้ดูชั่วเก็บมาละ”
และก็เป็นธรรมดาที่สภาพแวดล้อมของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยมาเรียนธรรมะมารับการอบรมจิตใจ เมื่อมีอาชีพการงานธุระเข้ามามากเข้าก็เหมือนค่อยๆ เดินเข้าสู่ความมืดมนของโมหะระคนด้วยโลภะและโทสะตามอารมณ์ที่มากระทบและก็เท่ากับการห่างหายไปจากการอบรมจิตใจด้วยพระธรรมที่เป็นแสงสว่างของชีวิตการอยู่ห่างไกลกัลยาณมิตรเช่นครูหรือบัณฑิตผู้รู้ จึงง่ายต่อการเดินสู่ทางต่ำที่เป็นความเคยชินชำนาญของชีวิตแต่เก่าก่อน
และแม้กระทั่งผู้ที่อยู่ใกล้ชิดบัณฑิตผู้รู้แล้วแต่ไม่นำพาการพัฒนาตนเองก็ไม่ต่างจากทัพพีในหม้อแกงหรือได้เคยพัฒนาตนเองมาบ้างแล้วแต่ไม่อาจต้านทานกำลังแรงแห่งกิเลสได้ก็เหมือนกับรากแก้วมาพบหิน ปิดกั้นความเจริญเติบโตไม่ให้มีความก้าวหน้า บางครั้งก็ส่งผลให้เกิดการแห้งตายได้เหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติดีปฏิบัติงามมาโดยตลอด อยู่ๆ ก็เกิดดีแตกทำชีวิตให้ขมขื่นมากมาย เช่น มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความอยากได้ใคร่ดีช่างเม้าท์ตำหนิติติงนินทาผู้อื่น การมีโทสะจนยากที่ระงับ ความก้าวร้าว และประพฤติทุจริตต่างๆ ...เหล่านี้ล้วนแสดงถึงความเป็นไตรลักษณ์ซึ่งเป็นปกติธรรมดา หลวงพ่อท่านบอกว่า อะไรที่ไม่ได้ใช้มันก็เสื่อม
ความดีที่เคยมีเมื่อไม่ได้เพียรกระทำด้วยความต่อเนื่อง วินัยในการทำความดีนั้นก็เสื่อมคลายไปเมื่อความดีคลายจากไปก็เป็นธรรมดาที่จะเกิดความชั่วขึ้นมาได้ หลวงพ่อท่านบอกว่าไม่จำเป็นต้องไปกำจัดสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่ให้ตั้งใจและมีความความเพียรที่จะกระทำบางสิ่งให้มากยิ่งขึ้นเหมือนฝึกม้าแข่ง ถ้าอยากให้ตัวไหนแข่งชนะก็นำตัวนั้นมาฝึกแล้วปล่อยอีกตัวหนึ่งไว้ในคอก โดยไม่จำเป็นต้องฆ่าทิ้ง เมื่อเรามาพบแสงสว่างและต้องการให้ชีวิตสว่างไปเราก็ต้องมีความเพียรกระทำความดีให้ยิ่งขึ้นไปเพื่อให้สว่างไปถึงสัมปรายภพ เราต้องเพียรฝึกม้าอย่างมุ่งมั่นก็จะพบชัยชนะในที่สุด