ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
ดู: 34|ตอบกลับ: 4

การแก้กรรม คืออะไร

[คัดลอกลิงก์]

324

กระทู้

210

ตอบกลับ

1 หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
10237
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พี่ดอกแก้ว เมื่อ 2025-11-23 06:06

การแก้กรรม คืออะไร


หลวงพ่อท่านสอนว่า ก่อนที่จะรู้ว่าการแก้กรรมคืออะไร ก็ต้องรู้ก่อนว่า “กรรม” คืออะไร ซึ่งนักศึกษาพระอภิธรรมก็จะตอบเหมือนๆ กันว่า กรรมก็คือเจตนา หรือเจตนาคือตัวกรรมที่ส่งผลให้เป็นวิบาก หรือบางคนอาจตอบว่า กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ซึ่งนั่นก็ไม่ผิด

แต่ถ้าถามต่อไปว่า “เจตนา(เจตนาเจตสิก)เกิดขึ้นกับจิตทุกดวงหรือไม่” คำตอบคือ “เกิดกับจิตทุกดวง” ถามอีกว่า “จิตทุกดวงส่งผลให้เป็นวิบากได้หรือไม่”  คำตอบคือ “ไม่”จิตหมวดใหญ่ๆ ที่จะก่อให้เกิดวิบากคือ หมวดของอกุศลจิต และหมวดของกุศลจิตซึ่งมีทั้งประเภทโลกียจิต และโลกุตตรจิต   ส่วนจิตที่นอกเหนือจากนี้ก็เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ไม่ส่งผลเป็นวิบากอีกต่อไป


ดังนั้น เมื่อพูดถึงเรื่องการแก้กรรมก็ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า กรรมที่ต้องการแก้คืออะไร? ก็คือกรรมที่จะให้ผลเป็นวิบาก ซึ่งก็คือเจตนาที่เกิดขึ้นพร้อมกับอกุศลจิต 12 ดวง, มหากุศลจิต  8 ดวง และมหัคคตกุศลจิต 9 เท่านั้น

ส่วนโลกุตตรกุศลจิตแม้จะให้ผลเป็นวิบากก็เป็นวิบากที่ไม่ส่ผลร้ายให้ต้องแก้ไขแต่อย่างใด (สำหรับมนุษย์แบบพวกเราก็คงจะมีขอบเขตของการแก้กรรมอยู่ที่อกุศลจิต 12 ดวง และมหากุศลจิต  8 ดวง เท่านั้น)

การที่พูดว่า เจตนาเกิดกับอกุศลจิต 12 ดวง,  มหากุศลจิต  8 ดวง และมหัคคตกุศลจิต 9 ดวงนั้น        ท่านเปรียบเทียบเหมือนเราหยิบกระจุกกระเทียมหรือหัวหอมขึ้นมา ตรงที่หยิบคือเจตนา และสิ่งที่หยิบได้คือเจตสิกต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกันในจิตดวงนั้น กำลังของเจตนานั้นคืออำนาจที่ทำให้เราสามารถหยิบสิ่งทั้งหมดมาได้ในคราวเดียวกัน คือจับครั้งเดียวก็ติดมือมาทั้งกระจุกหัวกระเทียมหรือกระจุกหัวหอม

324

กระทู้

210

ตอบกลับ

1 หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
10237
 เจ้าของ| โพสต์ 2025-11-23 06:09:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
และอำนาจของการรวมกำลังนี่แหละก็ส่งผลต่อให้เกิดวิบาก ดังนั้น เจตนาจึงมีหน้าที่ 2 อย่างคือ...


สังวิธานกิจคือทำให้เสร็จเป็นกรรม กับพีชนิธานกิจคือทำให้สำเร็จเป็นผลของกรรม


มาถึงตรงนี้แล้วเมื่อถามต่อว่า การแก้กรรมมีหรือไม่? ก็ต้องตอบว่า “ไม่มี”


เพราะทุกอย่างสำเร็จไปหมดแล้วในฐานะสังวิธานกิจและพีชนิธานกิจที่จะช่วยอุปการะให้เกิดวิบากต่อไปในอนาคต แต่ถ้าถามว่าถ้าต้องการจะแก้กรรมจะทำได้หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า “ทำได้” โดยการเปลี่ยนจากคำว่า “แก้กรรม” เป็นคำว่า “แก้ไขกรรม”  ซึ่งเป็นการแก้สิ่งที่ไม่ดีให้กลับกลายเป็นสิ่งดี


และพระพุทธเจ้าทรงสอนวิธีแก้ไขกรรมไว้แล้วเรียกว่า อริยประเพณี เป็นการแก้ไขความประพฤติเดิมๆ ที่เคยปฏิบัติมาให้มีความสันโดษ ไม่ทุจริต ไม่ยึดติด และไม่มีตัวตนเป็นใหญ่ สรุปแล้วแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ

324

กระทู้

210

ตอบกลับ

1 หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
10237
 เจ้าของ| โพสต์ 2025-11-23 06:11:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
1. อาจาริยเทศนา เป็นการอบรมพระภิกษุให้ประพฤติอยู่ในพระธรรมและพระวินัย 227 ข้อ หากมีการละเมิดศีลไปบางข้อ เช่น


พระภิกษุได้พูดออกไปในระหว่างอมข้าวหรือกำลังเคี้ยวข้าวอยู่ ก็จะต้องอาบัติเป็นบาปทุกฏ เพราะไม่สำรวมรระวังพูดในระหว่างที่มีอาหารอยู่ในปาก ฉะนั้น เมื่อรู้ว่าทำในสิ่งที่ไม่สมควรแล้วจึงมีหน้าที่ต้องปลงอาบัติ คือไปบอกกับภิกษุที่อ่อนพรรษากว่าว่า ข้าพเจ้าได้ล่วงกรรมบถ ล่วงศีลข้อที่ได้พูดออกไปขณะที่มีอาหารอยู่ในปาก ให้ท่านได้รับทราบและข้าพเจ้าจะพยายามสำรวมระวังมากกว่านี้ เพื่อลดทิฏฐิมานะลง ซึ่งจะปลงอาบัติก่อนเข้าจำวัดทุกวัน


นั่นคือหน้าที่ของพระเป็นอาริยประเพณีที่ได้รับจากอบรมสั่งสอน เรียกว่า อาจาริยเทศนา
การปลงอาบัตินี้ก็เป็นการแก้ไขกรรม เพราะถ้าไม่ปลงอาบัติ อาบัติก็จะเกาะตัวเองไปเพราะตัวเองรู้ว่าทำผิดแต่ไม่ยอมรับผิด การไม่ประกาศตัวก็คือการมีทิฏฐิและมานะมาปิดบัง แต่เมื่อแก้ไขกรรมโดยการปลงอาบัติแล้วก็เท่ากับเป็นการแก้ไขทิฏฐิมานะตนเองและทำให้เกิดความเบาใจ

324

กระทู้

210

ตอบกลับ

1 หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
10237
 เจ้าของ| โพสต์ 2025-11-23 06:15:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
2. การขอขมา เป็นการยอมรับผิดต่อบาปกรรมที่ทำไว้ และเชื่อว่าจะช่วยทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น หลวงพ่อท่านยกตัวอย่างเรื่องพระเจ้าอชาตศัตรูว่า


เรารู้จักกันดีว่าพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นผู้กระทำปิตุฆาตคือฆ่าพระเจ้าพิมพิสารผู้เป็นพ่อ ซึ่งในวันที่พ่อตายนั้นลูกชายของตัวเองก็เกิดมาพอดี  จึงได้รู้ว่าพ่อรักลูกมากมายขนาดไหน แต่ก็สายเกินไปแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูมีความผิดพลาดที่ไปคบกับคนพาลคือพระเทวทัต คบคนพาล พาลพาไปหาผิด


การกระทำของพระเจ้าอชาตศัตรูนี้จึงก็ติดอยู่ในใจทำให้ผวาหวาดกลัวอยู่ทุกค่ำคืน จนกระทั่งได้มาพบกับพระภิกษุรูปหนึ่งจึงแสดงความปรารถนาที่จะขจัดปัญหาที่อยู่ในใจ พระภิกษุรูปนั้นจึงแนะนำให้ไปพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในระหว่างทางก็ได้พบเห็นความสงบของพระภิกษุที่อยู่ระหว่างรายทาง ก็ประสงค์จะได้ความสงบเช่นนั้น เมื่อได้ไปอยู่เบื้องพระพักตร์แล้วก็ได้ทูลถามปัญหาต่างๆ และสารภาพว่าได้กระทำปิตุฆาต จึงขอให้พระพุทธองค์รับทราบความผิดนั้น ได้ขอขมาและขอให้ทรงยกโทษให้ และจะตั้งใจสำรวมระวัง


พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า


...เมื่อทรงเห็นว่าความผิดเป็นความผิดแล้วก็สารภาพความผิดนั้นออกมาตามความเป็นจริง  พระพุทธองค์ก็ขอรับทราบความผิดนั้น และตั้งใจที่จะสำรวมระวังตามอริยประเพณีกระทำการแก้ไขกรรมด้วยการตั้งใจทำความดีทั้งกาย วาจา ใจ ซึ่งพระเจ้าอชาตศัตรูได้ประกาศว่าจะขอพึ่งพระศาสนาจะรักษาพระรัตนตรัยไปจนวันตาย และเมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูลากลับไปแล้วพระพุทธองค์ทรงบอกกับพระภิกษุว่า พระเจ้าอชาตศัตรูเป็นผู้จมดินเสียแล้ว มิฉะนั้นจะได้บรรลุธรรม ณ บัลลังก์ตรงนี้

324

กระทู้

210

ตอบกลับ

1 หมื่น

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

เครดิต
10237
 เจ้าของ| โพสต์ 2025-11-23 06:17:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
3. ปวารณา เป็นการบอกกล่าวเพื่อให้ผู้อื่นตักเตือนหรือยอมให้ผู้อื่นตักเตือนได้หรือยอมทำงานให้ผู้อื่นได้ เป็นแก้ไขกรรมที่ใช้ได้กับบุคคลทั่วไป หลวงพ่ออธิบายว่า การปวารณาก็เหมือนกับเราลดทิฏฐิมานะลงไปกล่าวกับผู้ที่อายุน้อยกว่าวาให้บอกเราหรือเตือนเราได้ถ้าหากเราทำไม่ถูกต้องหรือทำสิ่งไม่สมควร เช่นใช้คำว่า หนูเตือนพี่ด้วยนะถ้าหากพี่พูดอะไรออกไปแล้วหนูรู้สึกไม่ดี หรือว่าสิ่งที่พี่พูดกับหนูแล้วมันไม่ใช่เหตุผลที่ดีแล้วหนูมีเหตุผลที่ดีกว่านี้ หนูบอกได้เลย เตือนพี่ได้ อย่างนี้คือการปวารณา เพราะในขณะที่พูดออกไปนั้นทิฏฐิมานะได้ลดลง การปวารณาเช่นนี้ใช้ได้กับทุกคนและทุกวัย และถ้านำมาใช้กันมากๆ  ครอบครัวและบ้านเมืองก็จะสงบสุข

ฉะนั้น การแก้ไขกรรมทั้งสามแบบจึงเป็นการแก้องค์ธรรมคือทิฏฐิมานะ หลวงพ่อท่านบอกว่า การศึกษาพระอภิธรรม ไม่ใช่แค่ท่ององค์ธรรม แต่เป็นการต้องทำความรู้จักและลดองค์ธรรมที่ไม่ดีให้น้อยลงไป ลดตัวทิฏฐิมานะ เรียกว่า การแก้กรรมในพระพุทธศาสนา


ด้วยความปรารถนาดี เพื่อให้ทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านเกิดความรู้และความเข้าใจในเรื่องการ แก้กรรม กันค่ะ


....พี่ดอกแก้ว...

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ข้อความล้วน|อุปกรณ์พกพา|ประวัติการแบน|อภิธรรมออนไลน์

GMT+7, 2025-12-8 12:56 , Processed in 0.094304 second(s), 21 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.9

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้