|
คำถามจากนักศึกษาพระอภิธรรม : การที่จะศึกษาพระอภิธรรมนั้น ควรเป็นไปตามลำดับอย่างไร?
คำตอบของท่านอาจารย์บุญมี : มีหลายท่านได้ประสบกับความล้มเหลวถึงแม้จะไม่สิ้นเชิงก็ตาม เพราะมิได้ศึกษาเป็นไปตามลำดับขั้นกล่าวคือตั้งแต่ปริจเฉทที่ ๑ ไปจนถึงปริจเฉทที่ ๙ หรือจะศึกษาเรื่องจิต เจตสิก รูป ได้แก่ปริจเฉทที่ ๑, ๒, ๖ แล้วจึงกลับมาศึกษาปริจเฉทที่ ๓, ๔, ๕, ๗, ๘, ๙ เป็นลำดับไปอย่างนี้ก็ได้
แต่บางท่านกลับศึกษากระโดดไปกระโดดมาตามแต่ว่าใครชวนให้ศึกษาอะไร หรือคิดว่าอะไรดีก็เอาทั้งนั้น แม้กระทั่งคัมภีร์ใหญ่ทั้ง ๗ ก็ตามไปศึกษา
ความจริงควรจะได้ศึกษาให้เป็นไปตามลำดับอย่าได้ขาดตอนเสีย แล้วเวลาที่เหลือนอกนั้น อยากจะศึกษาห้องใด หรืออยากจะศึกษาในปริจเฉทไหนเพิ่มเติมอีก แม้จะสลับกันอย่างไร หรือจะศึกษาคัมภีร์ใหญ่ก็ควรทำได้ เพราะได้สร้างพื้นฐานกำกับไปด้วยแล้ว ย่อมไม่คลอนแคลนได้ง่าย
เพราะเมื่อพิจารณาถึงเนื้อหาสาระจากคัมภีร์พระอภิธรรมทั้งหมดแล้วก็จะเห็นได้ว่า เป็นวิทยาการที่เต็มได้ด้วยเรื่องราวของชีวิตอันลึกซึ้งทั้งสิ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ศึกษามีความเฉลียวฉลาด สามารถเข้าใจเรื่องแม้จะเร้นลับที่วิชาการสมัยใหม่มิอาจจะให้ได้
ผู้ศึกษาดีจะมีความสุขความเยือกเย็นใจ ไม่ว่าจะไปตกอยู่ในสารทิศใด ทั้งจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เสมอ แม้เวลาที่ถือกันว่าสำคัญที่สุด คือใกล้จะถึงแก่ความตายก็รวมอยู่ด้วย
ประการสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การศึกษาพระอภิธรรมทั้งหมดนั้น ผู้ศึกษาจะได้รับประโยชน์ที่เกิดจากการปฏิบัติวิปัสสนาด้วย เพราะว่าพระอภิธรรมทุกปริจเฉทและทุกคัมภีร์ เมื่อศึกษาแล้วก็จะเห็นว่า ความรู้ที่ได้รับแต่ละขั้นแต่ละตอน ล้วนแต่เป็นการนำทางสู่เหตุผลมากมาย และนำไปสุ่จุดหมายปลายทางคือความพ้นทุกข์ทั้งนั้น เป็นการนำให้เข้าถึงความลึกซึ้งของการปฏิบัติวิปัสสนาอย่างสำคัญทีเดียว
ผู้ที่ศึกษาพระอภิธรรมมากเท่าใดก็ยิ่งจะได้เหตุผลจากการปฏิบัติลึกซึ้งมากเท่านั้น จะปฏิบัติผิดหรือถูกได้เหตุผลหรือไม่ก็จะเข้าใจ นอกจากนั้น ในเรื่องราวของพระอภิธรรมที่แสดงเป็นอันมาก เมื่อฟังแล้วพิจารณาตามไปด้วยดี ก็ชื่อว่าเป็นการปฏิบัติด้วยเหมือนกัน
|
|