ชีวิตของเรานี้ควรจะต้องหาสิ่งหนึ่งสิ่งใดทำ...อย่างที่เขียนไว้บนกระดานว่า
ถ้าไม่มีการเริ่มต้น..ก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง
เหมือนคนบางคนที่ได้แต่ยืนมองอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ
แต่ไม่เคยแม้แต่จะพยายามข้ามไป.
" ถ้าไม่มีการเริ่มต้น..ก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง " คำพูดนี้เราดูได้เลยว่าจริงหรือไม่?
ทุกวันนี้พอตื่นเช้าขึ้นมาเราก็หิว ..แล้วเราก็กินเข้าไป จากนั้นเราก็ทำโน่นทำนี่ไปจนถึงกลางวันเราก็หิว ..แล้วเราก็กินเข้าไป แล้วเราก็ทำโน่นทำนี่ไปจนถึงเย็น..เราก็กิน แล้วก็ทำโน่นทำนี่แล้วก็นอน ..หนึ่งวันก็ผ่านไป
พอเช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นเราตื่นขึ้นมาก็มากิน แล้วก็ทำโน่นทำนี่.แล้วก็กินกลางวัน แล้วก็ทำโน่นทำนี่..แล้วก็กินเย็น แล้วก็ทำโน่นทำนี่..แล้วก็นอน ก็หมดไปอีกวันหนึ่งแล้วพอเช้าตื่นขึ้นมาใหม่เราก็กิน ....ชีวิตเป็นแบบนี้
แต่ถ้าหากเราตั้งใจอาราธนาศีลแปด ..พอช้าตื่นขึ้นมาเราก็กิน แล้วก็ทำโน่นทำนี่จนถึงเวลาเพล..เราก็กิน แล้วก็ทำโน่นทำนี่จนถึงเย็น..หยุดกิน ...เห็นหรือไม่ว่า ชีวิตเปลี่ยนแล้ว ฉะนั้น ถ้าหากไม่มีการเริ่มต้นก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง
ยกตัวอย่างนี้มาเพื่อให้เห็นชัดว่า เป็นสิ่งที่ไม่ซ้ำ ..ชีวิตของเราทุกคนนั้นวนเวียนอยู่กับเรื่องที่จำเจซ้ำซาก แม้กระทั่งเราศึกษาธรรมะแล้วเราก็อยู่กับเรื่องที่จำเจซ้ำซาก.."เหมือนคนบางคนที่ได้แต่ยืนมองอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ"
เช่นทุกวันนี้เราคิดว่าการได้เกิดในที่ดี เราใฝ่หาสวรรค์เพราะคิดว่าเป็นของดี พระนิพพานนั้นเป็นสิ่งที่ปรารถนาอย่างยิ่ง ..ความคิดอย่างนี้ก็เหมือนกับการที่เรายืนมองอีกฟากหนึ่งด้วยความชื่นชมโสมนัส "แต่ไม่เคยเลยที่จะพยายามข้ามไป"ชีวิตจึงต้องเป็นไปอย่างนี้
และชีวิตโลกธรรมนั้นไม่มีอะไรมาก ไม่ว่าจะเป็นคนชาติใดต่างก็มีการไขว่คว้าค้นหา "Power Sex Money" โลกนี้จึงหมุนไปได้ ..โลกของโลกธรรมนั้นหมุนไปได้เพราะสามสิ่งนี้