แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ศาลาธรรม เมื่อ 2018-11-23 19:50
คือประทีปดวงงามยามแรกเริ่ม
คือผู้เพิ่มทางปัญญาพาผ่องใส
คือผู้นำอภิธรรมให้ก้าวไกล
คือผู้ใช้ชีพนี้พลีเพื่อธรรม
ย้อนรำลึก..ด้วยอาลัย
๒๔ พ.ย. ๒๕๓๔ เป็นวันมรณะภาพ ประทีปดวงเอกแห่งอภิธรรมมูลนิธิ คือ พระบุญมี เมธฺงกุโร หรือท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูร ของพวกเราเหล่าลูกศิษย์ ๒๗ ปีแล้ว ยังความโศกใจเพราะความพลัดพราก และความอาลัยในประทีปดวงเอกของมูลนิธิให้เกิดขึ้นอีกครั้ง
เพราะเมื่อหกสิบกว่าปีก่อน...ก่อนที่จะมีชื่อ อภิธรรมมูลนิธิปรากฏบนผืนแผ่นดินไทย อาจารย์บุญมี เมธางกูร ได้เริ่มต้นชีวิตครูผู้สอนธรรมะด้วยการเป็นกรรมการฝ่ายธรรมะศึกษา และเป็นผู้บรรยายพระอภิธรรมปิฎก ณ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย มานานนับสิบปี จนกระทั่ง เกิดความขัดข้องเกี่ยวกับสถานที่ที่ไม่เพียงพอต่อการเรียนการสอน ในขณะที่มีผู้สนใจศึกษาพระอภิธรรมปิฎกจำนวนมากขึ้น
ดังนั้น ด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัวจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมกับความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจของสหายพระอภิธรรมอีกหนึ่งคณะ ท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูร จึงได้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะตั้งองค์กรเพื่อเผยแผ่พระอภิธรรมโดยเฉพาะการยื่นเรื่องราวต่อทางราชการจึงได้ดำเนินขึ้นอย่างถูกต้อง จวบจนกระทั่ง ๒๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๐๐ อภิธรรมมูลนิธิจึงได้รับการจดทะเบียนให้เป็นองค์กรเพื่อเผยแพร่พระอภิธรรมอย่างเป็นทางการโดยมีที่ทำการแห่งแรก ณ บ้านที่พักอาศัยของท่านเอง ต่อมาได้ขยับขยายไปยังวัดพระเชตุพนฯ และในที่สุดด้วยความอนุเคราะห์ของหลวงพ่อเสือ อาจารย์วิชิต ธรรมรังษี และอาจารย์บุษกร เมธางกูร อภิธรรมมูลนิธิจึงสามารถสถานที่ตั้งอย่างถาวร ณ ถนนพุทธมณฑลสาย ๔ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูรได้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการอภิธรรมมูลนิธิในเพศฆราวาส นับตั้งแต่วันเริ่มแรกการก่อตั้งจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิตซึ่งอยู่ในเพศของสมณะคือวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ นับเป็นเวลา ๓๔ ปีที่ท่านดำรงตำแหน่งแห่งความเสียสละนี้
๓๔ ปีแห่งการทำงานที่ทุ่มเทอย่างไม่ท้อต่อความเหน็ดเหนื่อยและความยากลำบากเพราะในสมัยนั้น พระอภิธรรมยังไม่เป็นที่ยอมรับของพระสงฆ์ตลอดจนพุทธศาสนิกชนชาวไทยเท่าใดนักการบุกเบิกเส้นทางสายแรกจึงมิใช่งานที่ง่ายดายเลย มีแต่อุปสรรคขวากหนามขวางหน้าอยู่ตลอดเวลาซึ่งกว่าจะได้เส้นทางที่ราบเรียบและราบรื่น ท่านอาจารย์ต้องหยิบยื่นทุนใจเพื่อที่จะให้ความรู้ด้วยความเสียสละอย่างยากที่จะหาสิ่งเปรียบ
|